Page 85 - 47-2
P. 85

วารสารราชบััณฑิิตยสภา
                                         ปีีที่่� ๔๗ ฉบัับัที่่� ๒ พฤษภาคม–สิิงหาคม ๒๕๖๕
             ศาสตราจารย์์สุดาศิริ วศวงศ์                                                     75


             ลูกจ้างหญิิงทำางานเกี�ยวกับการผลิต่หร่อขนสำ่งวัต่ถึุระเบิดหร่อวัต่ถึุไวไฟื้ได้  หากปรากฏิว่าสำภาพของงาน

             ไมี่เป็นอันต่รายต่่อสำุขภาพและร่างกายของลูกจ้างหญิิงนั�น

                                 นอกจากนี� กฎกระทรวงฉบับที� ๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกต่ามีความีในพระราช-
             บัญิญิัต่ิคุ้มีครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ฉบับลงวันที� ๒๒ สำิงหาคมี พ.ศ. ๒๕๔๑ ข้อ ๔ ยังได้กำาหนดไว้ว่า
                                 ข้อ ๔ “นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่ึ�งเป็นหญิิงทำางานในงานวิชาชีพหร่อวิชาการเกี�ยวกับ

             การสำำารวจ การขุดเจาะ การกลั�นแยก และการผลิต่ผลิต่ภัณฑ์์จากปิโต่รเลียมีหร่อปิโต่รเคมีีได้ ถึ้าสำภาพ

             หร่อลักษณะของงานนั�นไมี่เป็นอันต่รายต่่อสำุขภาพหร่อร่างกายของลูกจ้างนั�น”
                                 (๒) นำ�าหนักในการทำางานที�ลูกจ้างหญิิงจะทำาได้ ใน พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้มีีการ
             ประกาศกฎกระทรวงกำาหนดอัต่รานำ�าหนักที�นายจ้างให้ลูกจ้างทำางานได้ พ.ศ. ๒๕๔๗ กำาหนดให้นายจ้าง

             ให้ลูกจ้างหญิิงทำางานยก แบก หามี หาบ ทูน ลาก หร่อเข็นของหนักไมี่เกินอัต่รานำ�าหนักโดยเฉลี�ย

             ๒๕ กิโลกรัมีต่่อลูกจ้างหญิิง ๑ คน ซึ่ึ�งสำอดคล้องกับอนุสำัญิญิาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ
             ฉบับที� ๑๒๗ ว่าด้วยนำ�าหนักสำูงสำุดที�อนุญิาต่ให้คนงานคนหนึ�งแบกหามี ค.ศ. ๑๙๖๗ (The Maximum
             Permissible Weight to be Carried by One Worker, 1967) และข้อแนะฉบับที� ๑๒๘ ว่าด้วย

             นำ�าหนักสำูงสำุดที�อนุญิาต่ให้คนงานคนหนึ�งแบกหามีได้ ค.ศ. ๑๙๖๗ (Recommendation Concerning

             the Maximum Permissible Weight to be Carried by One Worker, 1967) ดังกล่าวมีาแล้ว
                                 (๓) กำาหนดเวลาทำางาน สำำาหรับกำาหนดเวลาและชั�วโมีงการทำางานสำำาหรับ
             ลูกจ้างซึ่ึ�งเป็นหญิิง สำ่วนใหญิ่จะกำาหนดไว้เช่นเดียวกับลูกจ้างชาย แต่่เน่�องจากสำุขภาพอนามีัยและ

             ร่างกายของหญิิงโดยทั�วไปไมี่แข็งแรงเท่ากับชาย และในการเดินทางไปปฏิิบัต่ิงานในบางเวลาค่อใน

             ช่วงเวลา ๒๔.๐๐ นาฬิิกาถึึง ๖.๐๐ นาฬิิกา จะไมี่มีีความีปลอดภัยสำำาหรับเพศหญิิง อาจก่อให้เกิด
             อันต่รายต่่อสำุขภาพอนามีัยและความีปลอดภัยของลูกจ้างได้ จึงควรที�จะต่้องพิจารณาให้รอบคอบว่า
             สำมีควรที�จะให้ลูกจ้างหญิิงทำางานในกำาหนดเวลานี�หร่อไมี่ เพราะหากเกิดอันต่รายขึ�นมีาแล้วก็จะเป็นที�

             เสำียใจกันทุกฝึ่าย แต่่ในบางครั�งนายจ้างก็อาจจำาเป็นที�จะต่้องให้ลูกจ้างหญิิงทำางานในช่วงระยะเวลานั�น

             จึงผ่อนปรนว่าให้พิจารณาให้เหมีาะสำมีว่า สำมีควรที�จะให้ทำาหร่อไมี่ จะเกิดอันต่รายหร่อความีไมี่ปลอดภัย
             หร่อไมี่ ถึ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าไมี่เป็นอันต่ราย เช่น หอพักอยู่ภายในบริเวณสำถึานประกอบการ ไมี่ต่้อง
             เดินทางไกล ออกจากสำถึานประกอบการก็เข้าห้องพักได้เลย เช่นนี�ก็สำามีารถึให้ลูกจ้างหญิิงทำางานในช่วง

             เวลาดังกล่าวได้ แต่่ถึ้าเห็นว่าเป็นอันต่ราย เช่น บ้านพักและสำถึานประกอบการอยู่ห่างกัน ๕ กิโลเมีต่ร

             และทางค่อนข้างเปลี�ยว ต่้องเดินทางไปกลับเองระหว่างสำถึานประกอบการกับบ้านพัก ทั�งสำถึาน
             ประกอบการก็ต่ั�งอยู่ห่างไกลจากชุมีชน เช่นนี�ก็ควรที�จะปรับเปลี�ยนหร่อลดชั�วโมีงการทำางานลงไปให้
   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90