Page 82 - 47-2
P. 82
วารสารราชบััณฑิิตยสภา
ปีีที่่� ๔๗ ฉบัับัที่่� ๒ พฤษภาคม–สิิงหาคม ๒๕๖๕
72 การคุ้้�มคุ้รองแรงงานหญิิงตามกฎหมาย
สำำาหรับบทบัญิญิัต่ิเกี�ยวกับการทำางานในรัฐธรรมีนูญิฉบับนี�ได้กำาหนดไว้ในมีาต่รา
๔๐ และมีาต่รา ๗๔ ดังนี�
มีาต่รา ๔๐ “บุคคลย่อมีมีีเสำรีภาพในการประกอบอาชีพ การจำากัดเสำรีภาพต่ามี
วรรคหนึ�งจะกระทำามีิได้เว้นแต่่โดยอาศัยอำานาจต่ามีบทบัญิญิัต่ิแห่งกฎหมีายที�ต่ราขึ�นเพ่�อรักษา
ความีมีั�นคงหร่อเศรษฐกิจของประเทศ การแข่งขันอย่างเป็นธรรมี การป้องกันหร่อขจัดการกีดกัน
หร่อการผูกขาด การคุ้มีครองผู้บริโภค การจัดระเบียบการประกอบอาชีพเพียงเท่าที�จำาเป็น หร่อ
เพ่�อประโยชน์สำาธารณะอย่างอ่�น
การต่รากฎหมีายเพ่�อจัดระเบียบการประกอบอาชีพต่ามีวรรคสำองต่้องไมี่มีีลักษณะ
เป็นการเล่อกปฏิิบัต่ิหร่อก้าวก่ายการจัดการศึกษาของสำถึาบันการศึกษา”
มีาต่รา ๗๔ “รัฐพึงสำ่งเสำริมีให้ประชาชนมีีความีสำามีารถึในการทำางานอย่างเหมีาะสำมี
กับศักยภาพและวัย และให้มีีงานทำา และพึงคุ้มีครองผู้ใช้แรงงานให้ได้รับความีปลอดภัยและมีีสำุขอนามีัย
ที�ดีในการทำางาน ได้รับรายได้สำวัสำดิการการประกันสำังคมีและสำิทธิประโยชน์อ่�นที�เหมีาะสำมีแก่การ
ดำารงชีพ และพึงจัดให้มีีหร่อสำ่งเสำริมีการออมีเพ่�อการดำารงชีพเมี่�อพ้นวัยทำางาน รัฐพึงจัดให้มีีระบบ
แรงงานสำัมีพันธ์ที�ทุกฝึ่ายที�เกี�ยวข้องมีีสำ่วนร่วมีในการดำาเนินการ”
จะเห็นได้ว่าบทบัญิญิัต่ิ ๒ มีาต่รานี�ได้กำาหนดสำิทธิของหญิิงและชายเอาไว้อย่าง
เท่าเทียมีกันทุกประการ
๒.๒ กฎหมีายเกี�ยวกับการทำางานของหญิิง
จากบทบัญิญิัต่ิของรัฐธรรมีนูญิดังกล่าวมีาแล้วที�มีุ่งจะให้ความีคุ้มีครองสำิทธิเสำรีภาพ
ของหญิิงทั�งในด้านการดำารงชีวิต่ ฐานะสำุขภาพอนามีัย ต่ลอดจนการทำางานของหญิิงให้มีีความี
เสำมีอภาคเท่าเทียมีกับชาย และจากการที�นายจ้างจำานวนมีากพอใจที�จะจ้างหญิิงทำางานในงานบาง
ประเภทที�ต่้องการความีละเอียดประณีต่ที�หญิิงจะทำาได้ดีกว่าชาย และแรงงานหญิิงสำ่วนใหญิ่จะขยัน
อดทน เช่�อฟื้ัง ปกครองง่ายกว่าแรงงานชาย จึงมีีการจ้างแรงงานหญิิงเพิ�มีมีากขึ�นในงานต่่าง ๆ แต่่แรงงาน
หญิิงเองแมี้จะทำางานได้เช่นเดียวกับแรงงานชาย แต่่ลักษณะสำรีระทางร่างกายที�บอบบางกว่าชาย
ไมี่เหมีาะที�จะทำางานหนักหร่อทำางานบางประเภท บางสำถึานที�ที�อาจเป็นอันต่รายต่่อสำุขภาพร่างกายได้
จึงจำาเป็นที�จะต่้องได้รับการคุ้มีครองดูแลเป็นพิเศษเพ่�อมีิให้เกิดอันต่รายจากการทำางาน และในฐานะที�
หญิิงมีีหน้าที�อันยิ�งใหญิ่ค่อการเป็นมีารดาผู้ให้กำาเนิดบุต่ร ซึ่ึ�งเป็นทรัพยากรบุคคลที�มีีค่ายิ�งของชาต่ิ
จึงควรที�จะได้รับการคุ้มีครองดูแลเป็นพิเศษ ทั�งนี�ไมี่ถึ่อว่าเป็นการเล่อกปฏิิบัต่ิโดยไมี่เป็นธรรมีต่ามีที�
กำาหนดไว้ในมีาต่รา ๑๒๗ วรรค ๔ ดังกล่าวมีาแล้ว จึงได้มีีการกำาหนดกฎหมีายเกี�ยวกับการทำางานของ