Page 203 - 47-2
P. 203
วารสารราชบััณฑิิตยสภา
ปีีที่่� ๔๗ ฉบัับัที่่� ๒ พฤษภาคม–สิิงหาคม ๒๕๖๕
นายกฤษฎา บุุณยสมิิต 193
๔) ศาลแพิ�งเกษม โดยู่นำาศาลแพิ�งเกษม ศาลกรมวัง และศาลกรมนามารวมกัน
๕) ศาลแพิ�งกลาง โดยู่นำาศาลแพิ�งกลาง ศาลกรมท�าซึ่้ายู่ ศาลกรมท�าข้วา ศาลธรรมการ
และศาลราชี้ต่ระก่ลมารวมกัน
๖) ศาลสัรรพิากร โดยู่นำาศาลสัรรพิากรและศาลมรดกมารวมกัน
๗) ศาลต่�างประเทศคงต่ามเดิม
เมื�อยู่กศาลฎีกาไปเป็นศาลอุทธรณ์คดีหลวง จึึงให้พิิจึารณาความอุทธรณ์ คำาพิิพิากษา
ต่ัดสัินข้องศาลล�าง และให้พิิจึารณาฎีกาทั�งปวงที�คั�งค้างอยู่่�ด้วยู่ สั�วนความที�จึะเป็นฎีกาต่�อไป กำาหนดให้
ราษฎรท่ลเกล้าฯ ถวายู่ฎีกาได้เฉพิาะกรณีที�กล�าวโทษคำาพิิพิากษาศาลอุทธรณ์คดีหลวง และศาลอุทธรณ์
คดีราษฎร์ กล�าวโทษเสันาบดีเจึ้ากระทรวงทั�งปวง และเป็นประเด็นสัำาคัญที�ควรจึะได้รับพิระบรม-
ราชี้วินิจึฉัยู่ ถ้าทรงเห็นว�ามีเหตุ่อันควรพิิจึารณาให้ก็จึะโปรดเกล้าฯ ต่ั�งองคมนต่รีเป็นครั�งคราวให้ชี้ำาระ
ไต่�สัวนเสันอความเห็นท่ลเกล้าฯ ถวายู่ หรือให้ที�ประชีุ้มเสันาบดีปรึกษาต่ัดสัินความอื�นนอกจึากนี�
ห้ามมิให้ราษฎรทำาฎีกาท่ลเกล้าฯ ถวายู่ ต่�อมาใน พิ.ศ. ๒๔๓๕ ทรงประกาศใชี้้ “พิระราชิบััญญัติจัดีการ
ในัสนัามสถ้ิตยยุติธรรม รัตนัโกสินัที่รศก ๑๑๑” (ราชี้กิจึจึานุเบกษา เล�ม ๑๐ แผู้�นที� ๕, ร.ศ. ๑๑๑)
ให้เลิกศาลอุทธรณ์คดีหลวงและให้บรรดาความอุทธรณ์ทั�งหลายู่ซึ่ึ�งค้างพิิจึารณาอยู่่�ในศาลอุทธรณ์
คดีหลวงยู่กมารวมพิิจึารณาในศาลอุทธรณ์คดีราษฎร์ต่�อไป
ต่�อมาใน พิ.ศ. ๒๔๓๘ ทรงต่ราพิระราชี้บัญญัต่ิลักษณะพิยู่าน ร.ศ. ๑๑๓ ยู่กเลิกวิธี
พิิจึารณาความอยู่�างเก�า โดยู่ให้ผู้่้พิิพิากษาพิิจึารณาความเองโดยู่ต่ลอดจึนถึงทำาคำาพิิพิากษาดังเชี้�น
ปัจึจึุบัน และต่�อมาใน พิ.ศ. ๒๔๔๐ ทรงต่ราพิระราชี้บัญญัต่ิยู่กเลิกวิธีพิิจึารณาโจึรผู้่้ร้ายู่ต่ามจึารีต่
นครบาล ร.ศ. ๑๑๕ ซึ่ึ�งเป็นวิธีการสัอบสัวนที�ใชี้้เฉพิาะในคดีโจึรผู้่้ร้ายู่และผู้่้กระทำาความผู้ิดอันมี
โทษหลวง (เทียู่บได้กับคดีอาญาแผู้�นดินในปัจึจึุบัน) โดยู่ใชี้้วิธีทรมานต่�าง ๆ เชี้�น มัดโยู่ง ต่บปาก จึำาคา
จึำาข้ื�อ เฆ่ี�ยู่น เพิื�อถามเอาหลักฐานจึากต่ัวผู้่้ต่้องหาเอง เชี้�น ให้รับสัารภาพิ ให้บอกที�ซึ่�อนทรัพิยู่์ที�ลัก
หรือปล้นไป อันเป็นประเด็นสัำาคัญเรื�องหนึ�งในการต่ั�งข้้อรังเกียู่จึกระบวนการยูุ่ต่ิธรรมข้องไทยู่จึาก
ชี้าต่ิต่ะวันต่กและนำามาซึ่ึ�งสัิทธิสัภาพินอกอาณาเข้ต่นั�น
สัำาหรับศาลหัวเมืองนั�น ใน พิ.ศ. ๒๔๓๙ ทรงต่ราพิระราชี้บัญญัต่ิต่ั�งข้้าหลวงพิิเศษ
สัำาหรับจึัดการแก้ไข้ธรรมเนียู่มศาลยูุ่ต่ิธรรมหัวเมืองทั�งปวง ร.ศ. ๑๑๕ เพิื�อรวบรวมศาลในหัวเมืองต่�าง ๆ
ที�สัังกัดกระทรวงอื�นให้มาอยู่่�ในสัังกัดกระทรวงยูุ่ต่ิธรรมเชี้�นเดียู่วกับศาลในกรุงเทพิมหานคร จึนในที�สัุด
ระบบการศาลไทยู่จึึงเป็นอันหนึ�งอันเดียู่วกันทั�วราชี้อาณาจึักร มีความทันสัมัยู่เชี้�นเดียู่วกับศาลในนานา