Page 41 - 46-1
        P. 41
     วารสารราชบััณฑิิตยสภา
                                          ปีีที่่� ๔๖ ฉบัับัที่่� ๑  มกราคม-เมษายน ๒๕๖๔
             นายกฤษฎา บุุณยสมิิต                                                             33
                     บัำาเหันัดประการ ๑ คีือผู้่้พิจารณาพิภากษาอรรคีดีชิอบัตามประเวนัีโดยสัจ
                     โดยธรรม  หัมีใหั้ราษฎรได้คีวามเดือดร้อนั  ก็เปนับัำาเหันัดประการ  ๑...
                     (ราชบ้ณฑ์ิต่ยสถาน, ๒๕๕๐(๒) : ๓๖๗-๓๖๘)
                     ขุุนนางที�ไดี้ทำาความชอบแก่ราชการและเคยมีบำาเหน็จอย่างใดีอย่างหนึ�งนี� ต่่อไป็หากมี
             ความผ่ิดีทางราชการจะไดี้ร้บลดีหย่อนโทษให้ต่ามอ้ต่ราที�กฎหมายกำาหนดี
                     พระไอยการกระบัดศ้ก ซึ่ึ�งระบุว่าต่ราขุึ�นเมื�อ พิ.ศึ. ๑๙๙๕  ในร้ชสม้ยสมเดี็จพิระบรม
                                                                        ๘
             ไต่รโลกนาถ กำาหนดีเป็็นหล้กการในการพิิจารณาความดีีความชอบในทางราชการไว้ว่า
                     ...พระบัาทสมเดจ์บัรมมหัาจักรพรรดิศรรามาธิบัดีเสดจ์สถิตย์ในัพระธินัั�ง
                     สุวรรณมหัาปราสาทโดยบัุรพาภิมุข พร้อมด้วยมุกขมนัตรี กระวีชิาติราชิบัโรหัิด
                     ตาจารย์ มีพระราชิหัฤไทยใคีร่กรรุณาเพื�อจะระงับัดับัทุกข ข้าทแกล้วทหัารแล
                     ผู้่้มีบัำาเหันัจ์บัำานัานัผู้่้มีภัทยาแลผู้่้รั�งเมืองคีรองเมือง จ้�งมีพระราชิโองการมาณ
                     พระบัันัท่ล ใหั้ตราพระราชิบััญญัติคีำานัับัไว้ ผู้่้ใดทำาราชิการมีบัำาเหันัจ์บัำานัานั
                                                                                         อุ
                     ภัทยาทังสามนัี� ถ้าจะประสาทรางวันัแลที�ยศถาศักดิ พญาพระหัลวงใหั้เปนัเอก   มอ
                     แลเคีรื�องอุประโภกบัริโภกตามยศถาศักดิ� ถ้าเปนัพระหัลวงรั�งเมืองคีรองเมืองเอก   สอ
                     โทตรีจัตวา ถ้าบัำาเหันัจ์เปนัลหัุใหั้เลื�อนัที� ถ้าบัำาเหันัจ์เปนัมะชิิมมะใหั้ล่วงที�
                     ถ้าบัำาเหันัจ์เปนัอุกฤฐใหั้หัลั�นัที� ถ้าผู้่้มีบัำานัานัเปนัมชิิมใหั้เลื�อนัที� ถ้าเปนัแต่ลหัุ ก็
                     ใหั้ประสาทแต่รางวัลตามยศถาศักดิ� (ราชบ้ณฑ์ิต่ยสถาน, ๒๕๕๐(๑) : ๙๑๓-๙๑๔)
                     ขุุนนางผ่่้มียศึช้�นพิระยา ย้งแบ่งช้�นยศึเป็็นช้�นเอกอุดีม (อุ) ช้�นม้ธยม (มอ) และช้�นสาม้ญ (สอ)
             ส่วนการทำาราชการมีบำาเหน็จและบำานาญ หมายถึงการทำาความดีีความชอบในทางราชการ ซึ่ึ�งขุณะน้�น
             ช้�นขุองบำาเหน็จแบ่งเป็็นความชอบเล็กน้อย (บัำาเหันัจ์เปนัลหัุ) ความชอบป็านกลาง (บัำาเหันัจ์เปนั
             มะชิิมมะ) ความชอบอย่างมาก (บัำาเหันัจ์เปนัคีะรุ) และความชอบอย่างมากที�สุดี (บัำาเหันัจ์เปนัอุกฤฐ)
             ในส่วนความชอบที�เรียกว่า บำานาญ แบ่งช้�นเป็็น ป็านกลาง (มีบัำานัานัเปนัมชิิม) และ เล็กน้อย
             (เปนัแต่ลหัุ) ซึ่ึ�งผ่่้ที�ความชอบในทางราชการในระดี้บที�กล่าวมา จะไดี้ร้บการ “เลื�อนัที�” ซึ่ึ�งผ่่้นิพินธ์
             ส้นนิษฐานว่า เป็ลี�ยนต่ำาแหน่งให้ดีีขุึ�นในช้�นเดีิม “ล่วงที�” ส้นนิษฐานว่า เลื�อนต่ำาแหน่งให้ส่งช้�นขุึ�น
             ต่ามลำาดี้บ และ “หัลั�นัที�” ส้นนิษฐานว่า เลื�อนต่ำาแหน่งขุ้ามช้�นแบบก้าวกระโดีดี ซึ่ึ�งมีความหมาย
             ๘   ระบุว่าต่ราขุึ�นเมื�อว้นพิฤห้สบดีี ขุึ�น ๑๐ คำ�า เดีือน ๗ ป็ีจอ ม.ศึ. ๑๓๗๔ ที�ถ่ก ม.ศึ. ๑๓๗๔ ต่รงก้บ พิ.ศึ. ๑๙๙๕ ซึ่ึ�งเป็็นป็ีวอก ซึ่ึ�งต่่างก้น
               ๒ ป็ี.
     	
