Page 66 - 46-1
P. 66
วารสารราชบััณฑิิตยสภา
ปีีที่่� ๔๖ ฉบัับัที่่� ๑ มกราคม-เมษายน ๒๕๖๔
58 พระมหากษััตริย์์ไทย์กับประพฤติธรรม ๔ ประการในพระธรรมศาสตร์
เจ้้าพนัักงานัยื�นั ถ้ายื�นัโทษีถ่งตาย” (ราชบัณฑิิตย์สถึาน, ๒๕๕๐(๒) : ๑๔๖) หม่อมราชวงศ์เสน่ย์์
ปราโมชเคัย์กลั่าวไว้ในการปาฐกถึากฎหมาย์อย์ุธย์าว่า กฎหมาย์ในอด่ตบทน่�เป็นบทกฎหมาย์ท่�น่าภ้มิใจ
อ่กบทหนึ�งของประวัติศาสตร์ชาติไทย์แลัะหาได้ย์ากย์ิ�งในบทกฎหมาย์ของชาติใด ๆ ในโลักท่�ผู้้้ทรงไว้ซึ่ึ�ง
พระราชอำานาจกลัับทรงบัญญัติกฎหมาย์จำากัดพระราชอำานาจของพระองคั์เอง นอกจากน่�ย์ังม่การ
ทัดทานพระราชอำานาจได้อ่กด้วย์ ดังปรากฏิในกฎมณเฑิ่ย์รบาลั มาตราหนึ�งว่า “อนั่�งพระเจ้้าอย่�หัว
ดั่ำารัสตรัสดั่้วยกิจ้ราชิการคีดั่ีถ้อยคีวามประการใดั่ ๆ ต้องกฎหมายประเวณีเปนัยุติธรรมแล้วให้
กระทำาตาม ถ้าหมีชิอบัจ้งอาจ้พิดั่ท่ลทัดั่ทานัคีรั�ง คีรั�ง ถ้าหมีฟังให้งดั่ไว้อย�าเพ�อสั�งไปให้ท่ล
ในัที�ระโหถานั ถ้าหมีฟังจ้่�งให้กระทำาตาม ถ้าผิ่้ใดั่มิไดั่้กระทำาตามพระอายการดั่ั�งนัี� ท�านัว�าผิ่้นัั�นัแลมีดั่
พระราชิอา ” (ราชบัณฑิิตย์สถึาน, ๒๕๕๐(๒) : ๑๙๑)
หลัวงประดิษัฐ์มน้ธรรม (ปร่ด่ พนมย์งคั์) กลั่าวถึึงพระราชอำานาจของพระมหากษััตริย์์ใน
ระบอบสมบ้รณาญาสิทธิราชย์์ว่า “แม้พระราชิานัุภาพของพระบัาทสมเดั่็จ้พระเจ้้าอย่�หัวจ้ะไม�มี
บัทกฎหมายจ้ำากัดั่ไว้ก็ดั่ี พระองคี์ก็ยังทรงดั่ำารงไว้ซึ่่�งทศพิธราชิธรรม จ้ักรวรรดั่ิวัตรจ้รรยาและอื�นั ๆ
(หลัวงประดิษัฐ์มน้ธรรม, ๒๔๗๔ : ๔๓) แลัะพระวรวงศ์เธอ กรมหมื�นพิทย์าลังกรณ์ ทรงพระนิพนธ์เรื�อง
“ทรรศนัะของคีนัไทยแต�ก�อนัในัเรื�อง ตำาแหนั�งหนั้าที�ของพระมหากษีัตริย์” ว่า คััมภ่ร์พระธรรมศาสตร์
กลั่าวถึึงพระมหากษััตริย์์ว่าเป็นผู้้้ทรงธรรมิกราชแลัะมหาสมมุติราช ทรงตั�งอย์้่ในทศพิธราชธรรมแลัะ
ทรงไว้ซึ่ึ�ง “ประพฤทธิธรรม ๔ ประการ” แลัะพระย์าศร่วิสารวาจา (เท่ย์นเลั่�ย์ง ฮุุนตระก้ลั) อด่ตองคัมนตร่
กลั่าวถึึงประพฤติธรรม ๔ ประการไว้ว่า ตามประเพณ่ของไทย์ พระมหากษััตริย์์ทรงเป็นผู้้้นำาราษัฏิร
พระราชกิจประจำาวันของพระองคั์ใกลั้ชิดกับคัวามเป็นอย์้่ของราษัฏิรแลัะเพื�อทรงสามารถึปฏิิบัติ
พระราชภาระของพระมหากษััตริย์์ด้วย์ด่
พระมหากษีัตริย์จ้่งทรงตั�งอย่�ในัทศพิธราชิธรรม และรักษีาไว้ซึ่่�งประพฤทธิธรรม
สี�ประการ ถ้าเราศ่กษีาทศพิธราชิธรรมและประพฤทธิธรรมสี�ประการข้างต้นันัี�
ให้ละเอียดั่ถี�ถ้วนัแล้วจุ้ดั่ประสงคี์อันัสำาคีัญของธรรมเหล�านัี� ก็เพื�อเป็นัหลักประกันั
ที�จ้ะให้พระมหากษีัตริย์ไดั่้ทรงมีไว้พร้อมซึ่่�งคีวามมีศีล มีสัจ้จ้ะ คีวามเที�ยงธรรม
ไม�ลำาเอียง คีวามเผิื�อแผิ� เมตตากรุณา รวมทั�งมีศีลธรรมเป็นัอย�างส่ง หรืออีกนััยหนั่�ง
ก็เพื�อให้พระองคี์เป็นัเหมือนัหนั่�งศ่นัย์รวมของคีุณธรรมทั�งปวง อันัเป็นัที�เคีารพ
นัับัถือกันัอย่�แล้วทั�วไปในัประเทศ ดั่้วยคีวามมุ�งหวังว�า ในัระบับัการปกคีรอง
ของบัุคีคีลที�ทรงคีุณธรรมดั่ังกล�าวนัี� จ้ะเกิดั่ผิลมีสันัติและคีวามร�มเย็นัเป็นัสุข
(พระย์าศร่วิศาลัวาจา, ๒๔๙๗ : ๑๒-๑๓)