Page 63 - 46-1
P. 63

วารสารราชบััณฑิิตยสภา
                                          ปีีที่่� ๔๖ ฉบัับัที่่� ๑  มกราคม-เมษายน ๒๕๖๔
             นางสาวกนกวลีี ชููชูัยยะ                                                         55


             เพื�อประโย์ชน์แก่บ้านเมือง  ประการที� ๓ คัือ “ปรม่ลมาซึ่่�งพระราชิทรัพยโดั่ยยุติธรรม” ซึ่ึ�งหมาย์คัวาม

             ว่า พระมหากษััตริย์์จะไม่เบ่ย์ดเบ่ย์นราษัฎร โดย์ทรงรวบรวมพระราชทรัพย์์ เช่น เก็บภาษั่ประเภท

             ต่าง ๆ ด้วย์คัวามย์ุติธรรม  ประการที� ๔ คัือ “รักษีาพระนัคีรราชิเสมาให้ศุขเกษีมโดั่ยยุติธรรม”
             ซึ่ึ�งหมาย์คัวามว่า การปกคัรองพระราชอาณาจักรนั�นต้องย์ึดถึือหลัักย์ุติธรรมเป็นแนวทางสำาคััญ
             เคัรื�องมือสำาคััญท่�สุดในการอำานวย์คัวามย์ุติธรรมแก่ทุกกรณ่ท่�เกิดขึ�นคัือ บทกฎหมาย์ท่�เป็นธรรม

             การบังคัับใช้กฎหมาย์ แลัะการคัวบคัุมผู้้้ม่อำานาจหน้าท่�ในการใช้บังคัับกฎหมาย์ให้เป็นไปโดย์เสมอภาคั

             แลัะทั�วถึึง เพื�อให้ประชาชนซึ่ึ�งเป็นผู้้้อย์้่ในปกคัรองม่คัวามสุขเกษัมอันเกิดจากการได้รับคัวามย์ุติธรรม
             จากผู้้้ปกคัรอง ประพฤติธรรมประการสุดท้าย์น่�จึงม่นัย์สำาคััญท่�ลัึกซึ่ึ�ง  ดังนั�น ประพฤติธรรม ๔ ประการ
             ท่�บัญญัติเป็นราย์ลัะเอ่ย์ดตามกฎหมาย์น่�จึงม่นัย์สำาคััญย์ิ�งแห่งผู้ลัอันเป็นร้ปธรรมของการคัรองแผู้่นดิน

             โดย์ธรรม

                     พระธรรมศาสตร์อันเป็นกฎหมาย์แม่บทในกฎหมาย์ตราสามดวงม่ท่�มาจากคััมภ่ร์
             พระธรรมศาสตร์ดั�งเดิมอันเป็นตำารากฎหมาย์ตามคัติคัวามเชื�อในลััทธิพราหมณ์ซึ่ึ�งถึือเป็นคััมภ่ร์
             ศักดิ�สิทธิ� กำาหนดขึ�นโดย์พระเป็นเจ้ามิใช่เกิดจากนำ�ามือมนุษัย์์ จึงมิอาจเปลั่�ย์นแปลังได้แลัะผู้้้ใดจะ

             ลั่วงลัะเมิดมิได้ (สำานักงานราชบัณฑิิตย์สภา, ๒๕๕๘ : ๕) คััมภ่ร์พระธรรมศาสตร์น่�ย์ังเป็นกฎหมาย์หรือ

             หลัักธรรมท่�อย์้่ในคัวามคัิดของอินเด่ย์โบราณท่�เชื�อว่า พระมหากษััตริย์์นอกจากจะเป็นนักรบท่�เก่งกลั้า
             แลั้วย์ังจะต้องเป็นผู้้้ประพฤติธรรมด้วย์ ในขณะเด่ย์วกันพระองคั์ก็ม่พระราชอำานาจลังโทษัผู้้้ฝ่่าฝ่ืน
             ธรรมเพื�อให้สังคัมอย์้่ได้อย์่างสงบสุข (แสวง บุญเฉลัิมวิภาส, ๒๕๖๐ : ๓๕๕) มอญได้รับอิทธิพลัของ

             คััมภ่ร์พระธรรมศาสตร์ดั�งเดิมมาเป็นตำารากฎหมาย์ของมอญท่�เร่ย์กว่า “ธัมสัตถึัม” แลัะไทย์รับต่อมาจาก

             มอญ ดังนั�น กฎหมาย์ไทย์ตั�งแต่สมัย์อย์ุธย์าได้นำาหลัักการใหญ่ทางกฎหมาย์ในคััมภ่ร์พระธรรมศาสตร์
             มาเป็นกฎหมาย์แม่บทเพื�อเป็นหลัักในการตรากฎหมาย์ท่�เป็นสาขาคัด่ต่าง ๆ จนถึึงม่การชำาระสะสาง
             กฎหมาย์คัรั�งใหญ่เป็นกฎหมาย์ตราสามดวงในรัชสมัย์พระบาทสมเด็จพระพุทธย์อดฟ้้าจุฬาโลักมหาราช

             ในพระธรรมศาสตร์ระบุเนื�อคัวามตอนต้นว่าการปกคัรองแลัะบริหารราชการแผู้่นดินของพระมหากษััตริย์์

             ต้องตั�งอย์้่ในหลัักทศพิธราชธรรมแลัะหลัักประพฤติธรรม ๔ ประการดังกลั่าวแลั้ว
                     กฎหมาย์ตราสามดวงซึ่ึ�งม่พระธรรมศาสตร์เป็นกฎหมาย์แม่บทสำาคััญได้ใช้เป็นหลัักในการ
             ปกคัรองบ้านเมืองมาตั�งแต่สมัย์อย์ุธย์าตอนต้นจนถึึงรัชกาลัท่� ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จึงม่การปฏิิร้ป

             ระบบกฎหมาย์คัรั�งใหญ่โดย์ทย์อย์ย์กเลัิกพระอัย์การฉบับต่าง ๆ ในกฎหมาย์ตราสามดวงแลัะเปลั่�ย์น

             มาใช้กฎหมาย์สมัย์ใหม่ตามแบบแผู้นของตะวันตก ประพฤติธรรม ๔ ประการจึงถึือเป็นบทบัญญัติของ
             กฎหมาย์ในอด่ตท่�พระมหากษััตริย์์ทุกพระองคั์ในระบอบสมบ้รณาญาสิทธิราชย์์ทรงย์ึดถึือแลัะปฏิิบัติ
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68