Page 172 - PDF File วารสารราชบัณฑิตยสภา
P. 172

วารสารราชบััณฑิิตยสภา
                                           ปีที� ๔๘ ฉบัับัที� ๒ พัฤษภาคม-สิิงหาคม ๒๕๖๖

               160                                         การพััฒนาและการประยุุกต์์ใช้้พัอลิเมอร์ฐานกลีเซอรอลและไทรกลีเซอไรด์์



              การผิลิต์พัอลิเมอร์จากโมเลกุลข็องไทรกลีเซอรอลที�มีหลายุหมู�ฟิังก์ช้ัน

                          การัสังเครัาะห์พอลิเมอรั์จากน้�ามันของพืชีต่างชีนิด ซ่�งมีไทรัแอซิลกลีเซอรัอลที�มีโครังสรั้าง

              ทางเคมีแตกต่างกัน เชี่น จำนวนพันธัะคู่ของคารั์บอน หมู่ฟิังก์ชีันต่างกัน จำนวนหมู่อิพ็อกซีและหมู่ไฮดรัอกซิล
              มีบทบาทสำคัญต่อการัเกิดโครังสรั้างพอลิเมอรั์ที�แตกต่างกันไป็ ดังนี�

                      (ก) จำนวนและต์ำแหน�งพัันธุ์ะคุู�
                          ความว่องไวในการัเกิดป็ฏิิกิรัิยาของสารัตั�งต้นจากน้�ามันพืชีในการัสังเครัาะห์พอลิเมอรั์ เชี่น

              น้�ามันที�สกัดจากเมล็ดแฟิลกซ์ น้�ามันทัง เมล็ดต้นแคโนลา น้�ามันถุั�วเหลือง ข่�นกับตำแหน่งพันธัะคู่รัะหว่าง
              อะตอมคารั์บอน-คารั์บอน (C = C) มีจำนวนพันธัะคู่ ตำแหน่งของพันธัะคู่และหมู่ฟิังก์ชีันต่างกัน น้�ามันทัง

              และน้�ามันเมล็ดแฟิลกซ์ใชี้เป็็นน้�ามันชีักแห้ง (drying oil) ซ่�งเป็็นของเหลวที�แห้งตัวในอากาศัได้กลายเป็็นฟิิล์ม
              ของแข็ง (Alam, 2014: 471) น้�ามันเหล่านี�มีค่าไอโอดีน (iodine values) สูงมากกว่าหรัือเท่ากับ ๑๕๐ กรััมต่อ

              กรััมของน้�ามันพืชี น้�ามันถุั�วเหลือง น้�ามันดอกทานตะวัน และน้�ามันคาโนลา มีค่าไอโอดีนชี่วง ๑๑๐-๑๕๐ กรััม
              ต่อกรััมของน้�ามันพืชี ถุือเป็็นน้�ามันก่�งชีักแห้ง (semi-drying oil) เป็็นน้�ามันที�มีการัแห้งตัวบางส่วนเมื�อสัมผัส

              อากาศั ความสามารัถุในการัแห้งตัวข่�นกับการัเกิดป็ฏิิกิรัิยาของพันธัะคู่ในกรัดไขมันไม่อิ�มตัว ซ่�งสามารัถุเกิด
              ป็ฏิิกิรัิยาของออกซิเจนในบรัรัยากาศั จ่งเกิดป็ฏิิกิรัิยาการัพอลิเมอไรัเซชีันเป็็นพอลิเมอรั์ที�มีรั่างแห

                          น้�ามันเมล็ดแฟิลกซ์ ป็รัะกอบด้วยกรัดลิโนเลนิก (linolenic acid) ป็รัิมาณรั้อยละ ๖๐ กรัดแอลฟิา-
              ลิโนเลอิก (α-linoleic acid) และกรัดโอเลอิก (oleic acid) มีป็รัิมาณกรัดไขมันไม่อิ�มตัวมาก จำนวนพันธัะ

              คู่มาก สัดส่วนแป็รัผันตามภูมิอากาศัและสภาวะการัเพาะป็ลูก (Goyal, 1635 :2014) จ่งมีบทบาทสำคัญใน
              กรัะบวนการัแห้งตัวที�เกิดจากป็ฏิิกิรัิยาออกซิเดชีันและพอลิเมอไรัเซชีัน เมื�อน้�ามันดูดกลืนแก๊สออกซิเจน

              ป็รัิมาณมาก กรัะบวนการัออโต-ออกซิเดชีัน (auto-oxidation) ซ่�งเป็็นป็ฏิิกิรัิยาออกซิเดชีันที�เกิดข่�นเมื�อน้�ามัน
              และไขมันสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศั เกิดในน้�ามันที�พันธัะคู่ในโมเลกุลของกรัดไขมันชีนิดที�ไม่อิ�มตัว เรัิ�มต้น

              จากกรัดไขมันจับกับกลีเซอรัอลด้วยป็ฏิิกิรัิยาการัขจัดไฮโดรัเจน (dehydrogenation) ของกรัดไขมัน เชี่น
              กรัดลิโนเลนิกด้วยแก๊สออกซิเจนในบรัรัยากาศั มีการัสูญเสียน้�าและเกิดอนุมูลอิสรัะของส่วนที�ถุูกด่งหมู่ไฮดรัอกซิล

              ออกไป็ และเรัิ�มต้นการัพอลิเมอไรัเซชีันแบบโซ่ในป็ฏิิกิรัิยาการัเกิดไฮโดรัเพอรั์ออกไซด์ (hydroperoxide
              หรัือ ROOH) และการัเชีื�อมขวางของพอลิเมอรั์ต่างสายโซ่เกิดพอลิเมอรั์รั่างแห ดังภาพที� ๑๒

                          น้�ามันทัง  ซ่�งสกัดได้จากเมล็ดของต้น Aleurites  fordii  องค์ป็รัะกอบหลักมีกรัดไขมัน
              เอลีโอสเตียรัิก (eleostearic acid) มีป็รัิมาณรั้อยละ ๗๗–๘๒ เป็็นองค์ป็รัะกอบหลัก มีโครังสรั้างของพันธัะคู่

              สลับเดี�ยว กรัดโอเลอิก ป็รัิมาณรั้อยละ ๓.๕ -๑๒.๗ และกรัดลิโนเลอิก (linoleic acid) ป็รัิมาณรั้อยละ ๘-๑๐
              ในกรัดโอเลอิก พันธัะคู่เกิดในตำแหน่งคารั์บอนตำแหน่งที� ๙ (C ) และกรัดลิโนเลอิก ในตำแหน่งที� ๙ (C )
                                                                    9
                                                                                                       9
              และ ๑๒ (C ) กรัดลิโนเลนิกมีพันธัะคู่ที�ตำแหน่งที� ๙ (C ) ๑๒ (C ) และ ๑๕ (C ) ในขณะที�กรัดเอลีโอสเตียรัิก
                                                            9
                                                                               15
                                                                   12
                        12
              มีพันธัะคู่สลับพันธัะเดี�ยวที�ตำแหน่งคารั์บอน ๙ (C ) ๑๑ (C ) และ ๑๓ (C ) ดังภาพที� ๑๑ น้�ามันทังจ่งเกิด
                                                                             13
                                                                11
                                                        9
              การัพอลิเมอไรัเซชีันง่าย เกิดออกซิเดชีันได้เรั็วกว่ากลุ่มน้�ามันที�ไม่มีพันธัะคู่สลับพันธัะเดี�ยว จ่งได้ฟิิล์มพอลิเมอรั์
              ที�ต้านทานต่อน้�าและด่าง ขั�นตอนการัเกิดฟิิล์มดังนี�
   167   168   169   170   171   172   173   174   175   176   177