Page 49 - 46-1
P. 49

วารสารราชบััณฑิิตยสภา
                                          ปีีที่่� ๔๖ ฉบัับัที่่� ๑  มกราคม-เมษายน ๒๕๖๔
             นายกฤษฎา บุุณยสมิิต                                                              41


             นัา ๕๐๐๐ พระมหัาราชิคีร่พระราชิประโรหัิตาจารย์ราชิสุภาวดีศรีบัรมหังษองคีบัุริโสดมพรหัมญาณ

             วิบัุลสิลสุจริตวิวิทธเวทยพรหัมพุทธาจารย์ นัา ๑๐๐๐๐ พระราชิคีร่พระคีร่พิรามราชิสุภาวดีตรีเวท

             จุทามะณีศรีบัรมหังษ์ นัา ๕๐๐๐” (ราชบ้ณฑ์ิต่ยสถาน, ๒๕๕๐(๒) : ๒๔๖) หอหลวง คือ สถานที�เก็บ
             ร้กษาต่้วบทกฎหมายและต่ำาราสำาค้ญต่่าง ๆ ขุองแผ่่นดีิน พระธรรมนั่ญ หากต่ีความอย่างกว้าง
             คงหมายถึงบทกฎหมายที�เก็บร้กษาไว้ที�หอหลวง หากจะพิิเคราะห์ให้แคบลงมาอีก มีหล้กฐานทาง

             ป็ระว้ต่ิศึาสต่ร์เรื�องหนึ�งคือ ลาล่แบร์ อ้ครราชท่ต่ฝ่ร้�งเศึสที�เดีินทางเขุ้ามาเจริญส้มพิ้นธไมต่รีก้บสยาม

             ในร้ชสม้ยสมเดี็จพิระนารายณ์มหาราช บ้นทึกจดีหมายเหตุ่ไว้ว่า “กฎหัมายสยามนัั�นั จาร้กไว้เป็นั
             ลายลักษณ์อักษรเป็นัสมุด ๓ เล่ม เล่มแรกชิื�อ พระตำารา... ระบัุนัาม ตำาแหันั่งและหันั้าที�ของข้าราชิการ
             ทุกกรมกอง,  เล่มที�สองชิื�อ  พระธรรมนั่ญ...  รวบัรวมกฎหัมายและพระราชิกฤษฎีกาของ

             พระมหัากษัตริย์ในัอดีตเข้าไว้ และเล่มที�สามชิื�อว่าพระราชิกำาหันัด... รวบัรวมกฎหัมายและ

             พระราชิกฤษฎีกาคีรั�งแผู้่นัดินัพระชินักนัาถกับัพระเจ้าอย่่หััวในัรัชิกาลปัจจุบัันัเข้าไว้” (ลาล่แบร์,
             ๒๕๒๐ : ๓๖๒-๓๖๓) จึงอาจส้นนิษฐานไดี้อีกทางหนึ�งว่า ต่้วบทกฎหมายที�นำามาจากหอหลวงเพิื�อ
             พิิจารณาความดีีความชอบขุุนพิิเรนทรเทพิก้บพิวกในการป็ระกอบความดีีความชอบต่่อบ้านเมือง

             ในคร้�งนี� อาจเป็็นสมุดีกฎหมายเล่มที� ๒ ที�ลาล่แบร์บ้นทึกชื�อไว้ต่รงก้นว่า พระธรรมนั่ญ และส้นนิษฐาน

             ต่่อไป็ว่า การรวบรวมกฎหมายต่่าง ๆ ขุองพิระมหากษ้ต่ริย์ในอดีีต่น้�นรวมกฎมนเทียรบาลไว้ดี้วย
                     ๓. พิระราชพิงศึาวดีารกรุงร้ต่นโกสินทร์ ร้ชกาลที� ๑ บ้นทึกเหตุ่การณ์ในสงครามเก้าท้พิ
             เมื�อ พิ.ศึ. ๒๓๒๘ ซึ่ึ�งเป็็นช่วงเวลาที�พิระบาทสมเดี็จพิระพิุทธยอดีฟ้้าจุฬาโลกมหาราชสถาป็นา

             กรุงเทพิมหานครเป็็นราชธานีแห่งใหม่ พิระเจ้าป็ดีุง กษ้ต่ริย์พิม่า ไดี้ยกกองกำาล้งแบ่งเป็็น ๙ ท้พิบุก

             เขุ้ามาหลายทิศึทางท้�งทางป็ักษ์ใต่้ ทางราชบุรี ดี่านเจดีีย์สามองค์ กาญจนบุรี และทางเหนือ ในการรบ
             พิม่าทางเหนือมีบ้นทึกถึงการเลื�อนต่ำาแหน่งไว้ว่า “...ทางเหันัือนัั�นั มีพระราชิดำารัสใหั้สมเด็จพระเจ้า
             หัลานัเธอ เจ้าฟ้ากรมหัลวงอนัุรักษ์เทเวศร์ กรมหัลวงนัรินัทร์รณเรศ และเจ้าพระยามหัาเสนัา

             พระยาพระคีลัง พระยาอุไทยธรรม และท้าวพระยาข้าราชิการในักรุงเทพฯ และหััวเมือง ยกกองทัพ

             ไปตั�งรับัทัพพม่า ณ เมืองนัคีรสวรรคี์ทัพหันั้�ง...” เมื�อท้พิไทยไดี้ร้บช้ยชนะในการรบพิม่าทางเหนือ มีการ
             ให้ความชอบเลื�อนต่ำาแหน่งแม่ท้พิ เช่น “...ใหั้พระยาอุไทยธรรม (บัุนันัาคี) เลื�อนัที�เป็นัพระยายมราชิ
             แล้วโปรดใหั้พระยาพิพัฒนัโกษา (ทองดี) เลื�อนัที�เป็นัพระยาธรรมาธิกรณ์...พระราชิทานัพานัทองทั�งสิ�นั

             ด้วยกันั...” และมีบ้นทึกถึงการเลื�อนต่ำาแหน่ง ถ่กถอดีจากต่ำาแหน่ง และลงโทษแม่ท้พิที�แสดีงความ

             ขุลาดีในการต่่อส่้ก้บขุ้าศึึกในการรบทางเหนือไว้ว่า
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54