Page 32 - 45-3
P. 32

วารสารราชบััณฑิิตยสภา
                                            ปีีที่่� ๔๕ ฉบัับัที่่� ๓  กัันยายน-ธัันวาคม ๒๕๖๓
               24                                         สัังคมไทยกัับสัถาบันพระมหากัษััตริย์ : มุมมองทางประวััติศาสัตร์



               ฝ้รั�งเศส ดังนั�นเพื�อควัามูอยู่รอดในฐานะประเทศเอกราชข้องประเทศเลั็ก ซึ่ึ�งด้อยกวั่าอังกฤษแลัะ

               ฝ้รั�งเศสโดยเฉพาะด้านกำาลัังทัพแลัะอาวัุธียุทโธีปกรณ์อย่างไทย  พระบัาทสมูเด็จพระจอมูเกลั้าเจ้าอยู่หัวั
               จึงทรงดำาเนินพระบัรมูราโชบัายในการเจรจาผ่่อนปรนทางการทูติ  การทำาสนธีิสัญญาไมูติร่แลัะพาณิชย์

               กับัประเทศติ่าง ๆ แลัะการติ้องยอมูเส่ยดินแดนบัางส่วันให้แก่มูหาอำานาจติะวัันติกเพื�อรักษาเอกราช
               ข้องประเทศไวั้อันเป็นลัักษณะข้องการยอมูเส่ยประโยชน์ส่วันน้อยเพื�อรักษาประโยชน์ส่วันใหญ่คือ

               เอกราชซึ่ึ�งเปร่ยบัเสมูือนหัวัใจเอาไวั้  ข้ณะเด่ยวักับัท่�ติ้องปรับัปรุงประเทศให้ทันสมูัยติามูแบับัติะวัันติก
               เพื�อท่�มูหาอำานาจติะวัันติกจะไมู่สามูารถ่ใช้เป็นข้้ออ้างในการยึดไทยเป็นเมูืองข้ึ�น  โดยเฉพาะการบัริหาร

               ราชการแผ่่นดิน  พระองค์ทรงดำาเนินการปรับัปรุงการปฏิบััติิงานข้องกรมูกองติ่าง ๆ  การจัดติั�งหน่วัยงาน
               ใหมู่เก่�ยวักับัด้านการทหารแลัะการติำารวัจ โปรดเกลั้าฯ ให้มู่การติรากฎหมูายท่�ทรงดัดแปลังจาก

               แบับัแผ่นติะวัันติก แลัะให้มู่การบัังคับัใช้กฎหมูายดังกลั่าวัอย่างจริงจังในการบัริหารราชการแผ่่นดิน
               โดยให้เป็นหลัักการหรือแนวัทางในการปฏิบััติิราชการอย่างเหมูาะสมูข้องข้้าราชการท่�ด่เปร่ยบัประดุจ

               เป็น “ธีรรมูนูญการปกครองแผ่่นดิน” แลัะเป็นเสมูือน “คู่มูือ” ในการดำาเนินช่วัิติข้องคนทั�วัไป
               นอกจากนั�นยังทรงปรึกษาพระบัรมูวังศานุวังศ์แลัะเสนาบัด่ในการบัริหารราชการแผ่่นดินด้วัย

               พร้อมูกันนั�นยังได้ทรงดำาเนินการเก่�ยวักับัข้้าราชการคือให้มู่การเปลั่�ยนแปลังพระราชพิธี่ถ่ือนำ�า
               พระพิพัฒน์สัติยา โดยพระองค์ทรงเป็นผู่้นำาในการดื�มูนำ�าพระพิพัฒน์สัติยา เป็นการแสดงให้เห็นวั่า

               ทรงถ่ือวั่าทรงมู่หน้าท่�ติ่อข้้าราชการด้วัย ไมู่ใช่ข้้าราชการมู่หน้าท่�ติ้องซึ่ื�อสัติย์จงรักภักด่ติ่อพระองค์
               เพ่ยงฝ้่ายเด่ยวัดังแติ่ก่อน นอกจากนั�น โปรดเกลั้าฯ ให้ใช้วัิธี่เลัือกติั�งผู่้พิพากษาแทนการแติ่งติั�งติามู

               แบับัเดิมู รวัมูทั�งให้มู่การคัดเลัือกผู่้มู่คุณสมูบััติิท่�กอปรด้วัยคุณธีรรมูให้เข้้าดำารงติำาแหน่งข้้าราชการ
               ระดับัสูงด้วัย

                        ในส่วันข้องราษฎรหรือไพร่ซึ่ึ�งถ่ือวั่าเป็นพื�นฐานข้องสังคมูนั�น พระบัาทสมูเด็จพระจอมูเกลั้า
               เจ้าอยู่หัวัทรงมู่ควัามูสัมูพันธี์ใกลั้ชิดกับัราษฎรอย่างไมู่เคยปรากฏในพระมูหากษัติริย์พระองค์ใดมูาก่อน

               ทรงมู่พระราชดำาริในทางมูนุษยนิยมูแลัะเสร่นิยมูติามูแนวัควัามูคิดทางพระพุทธีศาสนาแลัะติะวัันติก
               ซึ่ึ�งได้ทรงนำามูาใช้เพื�อยกฐานะข้องราษฎรให้มู่ช่วัิติควัามูเป็นอยู่ท่�ด่ข้ึ�นในลัักษณะข้องการพระราชทาน

               “สิทธีิพลัเมูือง” แก่อาณาประชาราษฎร์ โดยผ่่านกฎหมูายหรือประกาศท่�ทรงติราข้ึ�นไวั้ใช้ในการปกครอง
               บั้านเมูือง เช่น การเติือนสติิราษฎรให้สงวันข้้าวัไวั้พอแก่การบัริโภคติลัอดปี การให้สิทธีิแก่ราษฎรทั�ง

               ผู่้ใหญ่  ผู่้หญิง  แลัะเด็กในการได้รับัการปกป้องจากรัฐ รวัมูทั�งกรณ่ผู่้ถู่กลัอบัวัางเพลัิง  การให้สิทธีิเสร่ภาพ
               ในการรับัรู้ข้้อมููลัข้่าวัสาร  การให้เสร่ภาพในการฟ้้องร้องถ่วัายฎ่กา  แลัะการผ่่อนคลัายจากระบับัไพร่










                                                                                                  31/3/2565 BE   09:16
       _21-0851(006-035)1E.indd   24                                                              31/3/2565 BE   09:16
       _21-0851(006-035)1E.indd   24
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37