Page 37 - 45-3
P. 37

วารสารราชบััณฑิิตยสภา
                                              ปีีที่่� ๔๕ ฉบัับัที่่� ๓  กัันยายน-ธัันวาคม ๒๕๖๓

                 ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ปิยนาถ บุนนาค                                             29


                 จัดพิมูพ์พระไติรปิฎก การติราพระราชบััญญัติิลัักษณะการปกครองคณะสงฆ์์ แลัะการจัดติั�งสถ่านศึกษา

                 ข้องคณะสงฆ์์
                          พระบาทสัมเด็จพระมงกัุฎเกัล้าเจ้าอยู่หัวั ทรงเป็นพระมูหากษัติริย์ไทยพระองค์แรก

                 ท่�ทรงได้รับัการศึกษาในประเทศอังกฤษติั�งแติ่ระดับัเบัื�องติ้นจนกระทั�งถ่ึงระดับัอุดมูศึกษาในกิจการ
                 ด้านทหารแลัะด้านพลัเรือน ทั�งภาคทฤษฎ่แลัะภาคปฏิบััติิ รวัมูทั�งการทอดพระเนติรกิจการติ่าง ๆ

                 ซึ่ึ�งทรงนำามูาใช้เป็นประโยชน์ในการบัริหารราชการแผ่่นดินในเวัลัาติ่อมูา แลัะเมูื�อครั�งท่�ประทับัอยู่ใน
                 ติ่างประเทศนั�น สมูเด็จพระบัรมูชนกนาถ่โปรดเกลั้าฯ ให้มู่พระอภิบัาลัชาวัไทยเป็นผู่้ถ่วัายพระอักษร

                 ควับัคู่กันไปด้วัย ดังนั�น พระองค์จึงทรงเข้้าพระทัยควัามูแติกติ่างระหวั่างวััฒนธีรรมูติะวัันติกกับั
                 ติะวัันออก ทั�งยังทรงติระหนักวั่าการเสด็จไปทรงศึกษาในยุโรปนั�นเป็นการแสวังหาควัามูรู้ควัามูเข้้าใจ

                 เรื�องราวัแลัะแนวัควัามูคิดข้องชาติิติะวัันติกท่�ไมู่อาจนำามูาใช้กับัประเทศไทยแลัะชาวัไทยได้โดยทันท่
                 แติ่ติ้องประยุกติ์ใช้ให้เหมูาะสมูแลัะติามูกาลัอันควัร

                          พระบัาทสมูเด็จพระมูงกุฎเกลั้าเจ้าอยู่หัวัทรงมู่พระปร่ชาสามูารถ่สมูกับัพระราชสมูัญญา
                 “สมูเด็จพระมูหาธี่รราชเจ้า” ทรงเป็นปราชญ์ทางด้านอักษรศาสติร์ผู่้รจนาบัทประพันธี์นานาประเภท

                 เป็นจำานวันมูาก พร้อมูกันนั�นทรงเป็นพระมูหากษัติริย์ผู่้ทรงมู่ควัามูสุขุ้มูคัมูภ่รภาพ มู่สายพระเนติร
                 อันยาวัไกลั จึงทรงวัางแผ่นบัริหารประเทศในลัักษณะ “การติั�งรับัแลัะป้องกัน” ปัญหาท่�อาจเกิดข้ึ�น

                 ในอนาคติ เช่น การป้องกันตินเองข้องพลัเรือน การวัางระบับัให้การศึกษาแก่ราษฎรทั�งประเทศเพื�อให้
                 เป็นพื�นฐานสำาคัญในการปกครองตินเองติามูระบัอบัประชาธีิปไติยในวัันข้้างหน้า การติั�งสภาเผ่ยแผ่่

                 พาณิชย์แลัะศาลัาแยกธีาติุเพื�อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจข้องประเทศโดยรวัมู
                          พระบัาทสมูเด็จพระมูงกุฎเกลั้าเจ้าอยู่หัวัทรงยึดถ่ือแนวัทางการบัริหารราชการแผ่่นดิน

                 ข้องพระบัาทสมูเด็จพระจอมูเกลั้าเจ้าอยู่หัวัแลัะพระบัาทสมูเด็จพระจุลัจอมูเกลั้าเจ้าอยู่หัวัอย่างเคร่งครัด
                 การปฏิรูปประเทศแลัะระบับัราชการในรัชสมูัยน่�จึงเป็นการสานติ่อพระราชดำาริ พระราชกรณ่ยกิจ

                 ท่�สมูเด็จพระอัยกาธีิราชแลัะสมูเด็จพระบัรมูชนกนาถ่ทรงวัางรากฐานแลัะดำาเนินการไวั้แลั้วั โดยได้
                 ปรับัปรุงกิจการติ่าง ๆ ให้เหมูาะสมูยิ�งข้ึ�น ทั�งเรื�องการจัดระเบั่ยบับัริหารราชการแผ่่นดิน การพัฒนา

                 คุณภาพช่วัิติแลัะควัามูเป็นอยู่ข้องราษฎร ท่�สำาคัญคือการปลัูกฝ้ังควัามูรู้สึกเป็นอันหนึ�งอันเด่ยวักันข้อง
                 ราษฎร ท่�แมู้จะมู่ควัามูแติกติ่างกันทางด้านชาติิพันธีุ์ ศาสนา แลัะวััฒนธีรรมู แติ่ก็มู่ควัามูรักชาติิ

                 มู่ควัามูจงรักภักด่ติ่อพระเจ้าแผ่่นดิน เป็นคนด่มู่คุณธีรรมูติามูหลัักศาสนาข้องติน แลัะมู่ควัามูสามูัคค่
                 ในหมูู่คณะเหมูือนกัน เป็นการสร้าง “จิติวัิญญาณข้องสยามูรัฐ”










                                                                                                  31/3/2565 BE   09:16
       _21-0851(006-035)1E.indd   29                                                              31/3/2565 BE   09:16
       _21-0851(006-035)1E.indd   29
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42