Page 235 - 45 2
P. 235

วารสารราชบััณฑิิตยสภา
                                         ปีีที่่� ๔๕ ฉบัับัที่่� ๒  พฤษภาคม-สิิงหาคม ๒๕๖๓
             ศาสตราจารย์์ ดร.ณััชชา พัันธุ์์์เจริญ                                          225


                     ขั�นตอนความคิด้ในการเรียบเรียงเพลงไทยมีด้ังนี� เม่�อเล่อกทำานองเพลงที�ต้องการเรียบเรียง

             ได้้แล้ว ต้องหัากุญแจเสียงที�เป็็นหัลักก�อน บางครั�งอาจไม�ตรงกับกุญแจเสียงที�นักด้นตรีไทยสอน

             กันมา ในทางสากลอาจต้องป็รับเคร่�องหัมายป็ระจำากุญแจเสียงใหั้ถึ่กต้องตามเสียงป็ระสานที�เกิด้ข่�น

             แต�ไม�ได้้หัมายความว�า ทางด้นตรีไทยจะใช้กุญแจเสียงผู้ิด้ เพราะถึ้าพิจารณ์าจากทำานองแต�เพียง
             อย�างเด้ียว ก็มีความเป็็นไป็ได้้ที�จะตีความเป็็นกุญแจเสียงนั�น ตัวอย�างเช�น เพลงเขมรไทรโยค

             ทางด้นตรีไทยจะข่�นต้นด้้วยเสียงโด้และกำาหันด้ใหั้เสียงโด้เป็็นทอนิก เสียงโด้ก็ค่อ C นั�นหัมายความว�า

             กุญแจเสียงที�เป็็นที�เข้าใจกันในกลุ�มนักด้นตรีไทยก็ค่อ C เมเจอร์ แต�เม่�อพิจารณ์าเสียงป็ระสาน

             ทำานองเขมรไทรโยคที�ข่�นต้นด้้วยโน้ตโด้ต้องอย่�ในกุญแจเสียง F เมเจอร์ โด้ยมีเคร่�องหัมายป็ระจำา
             กุญแจเสียงเป็็น B-แฟัล็ต และโน้ตโด้เป็็นด้อมินันต์ ไม�ใช�ทอนิก ส�วนโน้ตทอนิกต้องเป็็นโน้ต F

             แต�เน่�องจากโน้ต B-แฟัล็ต ไม�ป็รากฏิในทำานองเพลงนี� โน้ตจรจ่งไม�ป็รากฏิใหั้เหั็น อน่�ง ทำานอง

             เพลงไทยจำานวนมากมีโน้ตไม�ครบ ๗ ตัว โน้ตตัวที�ถึ่กละไว้มากที�สุด้ค่อโน้ตตัวที� ๔ และตัวที� ๗ ของ

             บันได้เสียง ทำาใหั้ทำานองเพลงในกรณ์ีด้ังกล�าวป็ระกอบด้้วยโน้ตเพียง ๕ ตัวที�เรียกว�า บันได้เสียง
             เพนทะทอนิก (pentatonic scale) อันป็ระกอบด้้วยโน้ตตัวที� ๑, ๒, ๓, ๕ และ ๖

                     ระบบคร่�งเสียงสามารถึป็รับใช้กับเพลงไทยได้้เป็็นอย�างด้ี เป็็นการเพิ�มสีสัน ใหั้รสชาติที�

             แตกต�าง แต�ต้องใช้ด้้วยความระมัด้ระวัง คอร์ด้โครมาติกมีหัลายชนิด้ สำาหัรับคอร์ด้โครมาติกที�ใช้ได้้ด้ี

             กับเพลงไทยค่อคอร์ด้โครมาติกป็ระเภทคอร์ด้ด้อมินันต์ระด้ับสอง (secondary dominant chord)
             นั�นหัมายความว�า โน้ตที�ไม�ได้้เป็็นส�วนหัน่�งของทำานองเพลงไทยก็นำามาใช้ป็ระสานเสียงได้้ แต�ต้อง

             เล่อกตำาแหัน�งใหั้เหัมาะสม  ฟัังไม�สะดุ้ด้  โด้ยเล่อกวางโน้ตนำาแนวเสียงใหั้เรียบด้้วยการขยับตามขั�น

                     โน้ตป็ระด้ับคร่�งเสียงก็ใช้ป็ระโยชน์ได้้ในการสร้างแนวทำานองคร่�งเสียงที�มีพลัง โด้ยคอร์ด้

             ในเสียงป็ระสานไม�จำาเป็็นต้องเป็็นคอร์ด้คร่�งเสียงในระบบโครมาติก โน้ตป็ระด้ับคร่�งเสียงเกิด้ข่�นได้้ทั�ง
             ในทำานองที�เป็็นหัลักและแนวป็ระกอบ แต�ต้องเล่อกใช้ในจุด้ที�เข้ากับเน่�อหัาได้้ในช�วงนั�นเพ่�อไม�ใหั้เกิด้

             เสียงรวมที�ผู้ิด้เพี�ยน
   230   231   232   233   234   235   236   237   238   239   240