Page 89 - PDF File วารสารราชบัณฑิตยสภา
P. 89
วารสารราชบััณฑิิตยสภา
ปีีที� ๔๘ ฉบัับัที� ๒ พฤษภาคุม-สิงหาคุม ๒๕๖๖
ศาสตราจารย์์ นาย์แพทย์์สัญญา สุขพณิิชนันท์ และศาสตราจารย์์เกีีย์รติคุุณิ นาย์แพทย์์สุรพล อิิสรไกีรศีล 77
บัทนำ
แมี้ว่าราชบััณฑิิตยสภาได้้รับัพระราชโองการ โปรด้เกล้้าฯ ให้้จัด้ตั�งขึ้้�นในรัชกาล้ท่� ๗ เมี่�อวันท่� ๑๙ เมีษายน
๒๔๖๙ (ราชกิจจานุเบักษา, ๒๔๖๙) แต่รายล้ะเอ่ยด้ต่าง ๆ เก่�ยวกับัสมีาชิกประเภทต่าง ๆ ท่�ประกาศในพระราช-
บััญญัติราชบััณฑิิตยสถาน พุทธิศักราช ๒๔๗๖ เมี่�อวันท่� ๓๑ มี่นาคมี ๒๔๗๖ (ราชกิจจานุเบักษา, ๒๔๗๗)
(ห้มีายเห้ตุ : ถ้านับัตามีปฏิิทินสากล้แล้้ว ต้องเป็นวันท่� ๓๑ มี่นาคมี ๒๔๗๗) (สัญญา, ๒๕๕๒) แล้ะมี่การแต่งตั�ง
ภาค่สมีาชิกชุด้แรกขึ้องราชบััณฑิิตยสถาน (ราชบััณฑิิตยสภาในปัจจุบััน) จำนวน ๓๐ คน โด้ยประกาศเมี่�อวันท่�
๒๔ พฤษภาคมี ๒๔๗๗ (ราชกิจจานุเบักษา, ๒๔๗๗) เน่�องจากใกล้้ครบัรอบั ๙๐ ปีขึ้องการประกาศแต่งตั�งภาค่
สมีาชิกชุด้แรกน่�ใน พ.ศ. ๒๕๖๗ ผู้้้นิพนธิ์ในฐานะสมีาชิกขึ้องราชบััณฑิิตยสภา จ้งมี่ความีสนใจในภาค่สมีาชิก
๑๑ คนแรกขึ้องสำนักวิทยาศาสตร์ว่าได้้ทำประโยชน์อะไรให้้กับัแผู้่นด้ินไว้บั้าง โด้ยภาค่สมีาชิกขึ้องสำนักวิทยาศาสตร์
ทั�ง ๑๑ คนตามีประกาศในราชกิจจานุเบักษา เร่�องตั�งภาค่ขึ้องราชบััณฑิิตยสถาน มี่ด้ังน่� (ร้ปท่� ๑)
ข. สำนักวิิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์ นายพล้ตร่ พระยาศัล้วิธิานนิเทศ
เฆมี่ นายตั�ว ล้พานุกรมี
ช่ววิทยา ห้ล้วงจุล้ช่พพิชชาธิร
ด้าราศาสตร์ นายนาวาตร่ ห้ล้วงชล้ธิารพฤฒิิไกร
พฤกษศาสตร์ ห้มี่อมีเจ้าล้ักษณากร เกษมีสันต์
แพทย์ศาสตร์ พระอัพภันตราพาธิพิศาล้
ห้ล้วงเฉล้ิมีคัมีภ่รเวชช
ฟิิสิคส ห้มี่อมีเจ้ารัชฎาภิเศก โสณกุล้
ภ้มีิวิทยา พระอุด้มีพิทยภ้มีิพิจารณ์
วิศวกรรมีศาสตร์ พระยาประกิตกล้ศาสตร์
สัตววิทยา นายพันตร่ ห้ล้วงสนิทรักษสัตว์
(พิมีพ์ตามีท่�ปรากฏิในราชกิจจานุเบักษา ๒๔๗๗)
ประเภทสมาชิิกของราชิบััณฑิิตยสถาน
ตามีพระราชบััญญัติราชบััณฑิิตยสถาน พุทธิศักราช ๒๔๗๖ มี่การกำห้นด้ประเภทสมีาชิกไว้ ๓ ประเภท
ค่อ สมีทบัสมีาชิก (พิมีพ์ตามีท่�ปรากฏิ) ภาค่สมีาชิก แล้ะราชบััณฑิิต โด้ย “สมีทบัสมีาชิกได้้แก่ผู้้้ท่�ทรงคุณวิชาใน
ทางใด้ทางห้น้�ง สมีัครเขึ้้าทำการติด้ต่อกับัราชบััณฑิิตยสถาน แล้ะได้้ย่�นความีจำนงโด้ยมี่ภาค่สมีาชิก อย่างน้อย
๒ คนรับัรองให้้รับัล้งทะเบั่ยนเป็นสมีทบัสมีาชิกได้้” ส่วนผู้้้ท่�จะเป็นภาค่สมีาชิก จะต้องเป็นสมีทบัสมีาชิกมีาแล้้ว
ไมี่น้อยกว่า ๑ ปี แล้ะได้้ค้นคว้าห้าความีร้้อันเป็นสาระในวิชาท่�ตนสมีัครเมี่�อเขึ้้าเป็นสมีทบัสมีาชิกมีาเผู้ยแพร่แก่
ประชาชนแล้้ว ซึ่้�งต้องย่�นความีจำนงต่อท่�ประชุมีภาค่สมีาชิก เพ่�อให้้ล้งมีติรับัรอง แล้ะเมี่�อท่�ประชุมีล้งมีติรับัรอง