Page 41 - 22-0722 EBOOK
P. 41

วารสารราชบััณฑิิตยสภา
                                         ปีีที่่� ๔๖ ฉบัับัที่่� ๓  กัันยายน-ธัันวาคม ๒๕๖๔
             ศาสตราจารย์์ ดร.อรอนงค์์  นัย์วิิกุุล                                            31


                     แนัวคิดทั�ง ๕ ข้อนัี�ย่ดแนัวทางการปฏิิบัติตามีคำาสอนัของพุระพุุทธองค์ที�ว�า ในัการดำารงชีวิต

             ด้วยอาหารนัั�นัต้องมีีสติ ควบคุมีอารมีณ์ มีีจิตใจสงบ ทำาให้ส�งผลดีต�อสุขภาพุจากอาหาร  ประกอบกับ

             การเลือกกินัอาหารให้ครบถี้วนั ทำากิจการงานั ออกกำาลังกาย กินัอย่�ตามีแนัวทางพุอเพุียงพุอดีของ
             พุระบาทสมีเด็จพุระบรมีชนักาธิเบศร มีหาภ่มีิพุลอดุลยเดชมีหาราช บรมีนัาถีบพุิตร (รัชกาลที� ๙)
             จะทำาให้การกินัอาหารนัั�นันัำาไปส่�ความีสุขทางกายและใจได้

                     ๑. อาหารหมาย่คิวามว่าอย่่างไร

                       คำาสอนัของพุระพุุทธเจ้าว�าด้วยความีเกิดและดับแห�งร่ปมีีได้เพุราะอาหารนัั�นัแสดงว�า
             อาหารเป็นัสิ�งสำาคัญที�สุดอย�างหนั่�งของชีวิต ซึ่่�งมีีทั�งการเกิดและการดับ ในัคำาสอนัจากพุระไตรปิฎก
             ภาษัาไทยปรากฏิคำา ๒ คำาคือ

                       ๑)  โภชนัสัปปายะ หมีายถี่ง การกินัอาหารที�เหมีาะสมีกับร�างกาย เกื�อก่ลสุขภาพุ

                       ๒)  โภชเนัมีัตตัญญุุตา หมีายถี่ง การร่้จักประมีาณในัการกินั ไมี�กินัมีากเกินัไปหรือ
                         นั้อยเกินัไป แต�กินัให้พุอดีกับที�ร�างกายต้องการ
                       ความีหมีายของอาหารตามีนััยพุระไตรปิฎกดังกล�าวสอดคล้องกับพุจนัานัุกรมี ฉีบับ

             ราชบัณฑิิตยสถีานั พุ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่่�งให้ความีหมีายของอาหารว�า ของกินั เครื�องคำ�าจุนัชีวิต เครื�อง

             หล�อเลี�ยงชีวิต โดยปริยายหมีายถี่งสิ�งที�มีีลักษัณะคล้ายคล่งเช�นันัั�นั เช�นั อาหารตา อาหารใจ
                     ๒. อาหารไทย่ได้มาจากไหน
                       จากการตั�งถีิ�นัฐานัของชาวไทย สืบทอดการทำามีาหากินัของบรรพุบุรุษัในัถีิ�นัแหลมีทอง

             หรือ “สุวรรณภ่มีิ” ของไทย จากยุคสุโขทัย อยุธยา และรัตนัโกสินัทร์ในัปัจจุบันั  ด้วยการปกครองระบบ

             พุ�อขุนั แบบ “พุ�อปกครองล่ก” มีาเป็นัระบบกษััตริย์ คือ ผ่้เป็นัเจ้าของนัา ผ่้ปกครองป้องกันัพุาให้พุ้นั
             อันัตราย คำาว�า “นัา” หมีายถี่งที�ปล่กข้าวเพุื�อเลี�ยงคนัทั�งประเทศ พุระมีหากษััตริย์ทุกยุคทุกสมีัย
             ถีือเป็นัหนั้าที�หลักในัการทำานัุบำารุงส�งเสริมีให้ชาวนัาได้ปล่กข้าวเป็นัอาหารหลักของประชาชนัคนัไทย

             ตลอดมีา  โดยเฉีพุาะพุระบาทสมีเด็จพุระบรมีชนักาธิเบศร  มีหาภ่มีิพุลอดุลยเดชมีหาราช  บรมีนัาถีบพุิตร

             (รัชกาลที� ๙) ได้สืบทอดวิถีีทางสนัับสนัุนัให้ชาวนัาได้พุัฒนัาวิธีการปล่กข้าว ด้วยการทดลองปล่กข้าว
             ในัวังสวนัจิตรลดาของพุระองค์เอง เพุื�อให้คำาแนัะนัำาแก�ชาวนัา ดังพุระราชดำารัสที�เกี�ยวข้องกับการ
             ปล่กข้าว และการแนัะนัำาให้ประชาชนัคนัไทยได้บริโภค “ข้าวกล้อง” ในัวโรกาสต�าง ๆ ดังนัี�

                       ๒.๑   “ข้าพุเจ้ามีีโอกาสได้ศ่กษัาการทดลองและทำานัามีาบ้าง และทราบดีว�า การทำานัานัั�นั

             มีีความียากลำาบากอย่�มีิใช�นั้อย จำาเป็นัจะต้องอาศัยพุันัธุ์ข้าวที�ดี และต้องใช้วิชาการต�าง ๆ ด้วย จ่งจะ
             ได้ผลเป็นัลำ�าเป็นัสันั อีกประการหนั่�ง ที�นัานัั�นั เมีื�อสิ�นัฤด่ทำานัาแล้วควรปล่กพุืชอื�นั ๆ บ้าง เพุราะจะ
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46