Page 72 - วารสาร 48-1
P. 72
วารสารราชบััณฑิิตยสภา
ปีีที่่� ๔๘ ฉบัับัที่่� ๑ มกราคม–เมษายน ๒๕๖๖
62 สุุภาษิิตจีีนในโคลงโลกนิติ
หล้ักฐานในเอกสุารทั�งสุองนี�แสุดีงให้เห็นว่า ชุนชุั�นนำาของไทยสุมัยก่อน ไดี้แก่ กษิัตริย์
พระราชุบุตร แล้ะอาจรวมถึึงขุนนางซึ่ึ�งเป็็นผู้่้ดีีมีตระก่ล้ ต้องขวนขวายเรียนภาษิาต่างป็ระเทศึจำานวนมาก
รวมทั�งภาษิาจีนเพ่�อเป็็นอาภรณ์ป็ระดีับกาย อนุมานว่าสุมเดี็จพระเจ้าบรมวงศึ์เธอ กรมพระยาเดีชุาดีิศึร
ก็ทรงไดี้รับการป็ระสุิทธิ�ป็ระสุาทวิชุาภาษิานานารวมทั�งภาษิาจีนดี้วยเชุ่นกัน ดี้วยภาษิาจีนเป็็นภาษิา
สุำาคัญในทางการค้ามาแต่โบราณ กับทั�งยังเป็็นป็ระต่สุำาคัญที�เป็ิดีให้ไดี้เรียนร่้วิทยาการของชุนชุาติ
ที�มีอารยธรรมยิ�งใหญ่ต่อเน่�องมาอย่างยาวนาน เชุ่นนี� ย่อมเป็็นไป็ไดี้ว่า สุมเดี็จฯ กรมพระยาเดีชุาดีิศึร
ย่อมต้องร่้จักสุุภาษิิตจีนไม่มากก็น้อย เพียงพอที�จะทรงนำามาแป็ล้แต่งเป็็นโคล้งโล้กนิติ แล้ะดี้วยความร่้
ที�สุ่งเสุริมให้พระองค์ทรงเข้าถึึงภ่มิป็ัญญาของจีน จึงไม่น่าแป็ล้กใจที�พระองค์ทรงไดี้รับความไว้วาง
พระราชุหฤทัยให้ทรงรับราชุการในกรมพระอาล้ักษิณ์มาตั�งแต่รัชุกาล้พระบาทสุมเดี็จพระพุทธเล้ิศึหล้้า
นภาล้ัยจนถึึงรัชุกาล้พระบาทสุมเดี็จพระจอมเกล้้าเจ้าอย่่หัว (กรมศึิล้ป็ากร, ๒๕๕๔ : ๒๓) จนพระบาท
สุมเดี็จพระจอมเกล้้าเจ้าอย่่หัวทรงยกย่องว่า “ทรงพระสุติป็ัญญาสุามารถึ ฉล้าดีในโวหารอันควร
แล้ไม่ควร แล้ะสุรรพพจน์โวหารใน สุยามาทิพากย์พิเศึษิต่าง ๆ หาผู้่้จะเสุมอมิไดี้ในการบัดีนี�...
เป็็นมหาสุยามกวีชุาตินักป็ราชุญ์อันป็ระเสุริฐ” (ราชิบััณฑิิตยสถานั, ๒๕๕๗ : ๓๗๓)
ในสุมัยรัตนโกสุินทร์ตอนต้น ชุนชุั�นนำาของไทยเข้าใจไป็ว่า นิยายอิงพงศึาวดีารจีนที�ชุาวจีน
อ่านเพ่�อป็ระเท่องสุติป็ัญญาแล้ะสุำาราญอารมณ์เป็็นพงศึาวดีารจีนโดียแท้ คนไทยจึงถึ่อเอาสามก๊ก
ชิิด็ก๊กไซ่่ฮั่ั�นั เลียด็ก๊ก แล้ะเร่�องจีนอ่�นในป็ระเภทเดีียวกันเป็็นเสุม่อนตำารับพิชุัยสุงครามเพ่�อศึึกษิา
กล้ศึึก ศึิล้ป็ะการเจรจาแล้ะการตัดีสุินใจ
บรรดีานิยายอิงพงศึาวดีารจีนที�แป็ล้กันในสุมัยก่อนรัชุกาล้พระบาทสุมเดี็จพระนั�งเกล้้า
เจ้าอย่่หัว สามก๊กนับเป็็นเร่�องเอก มีความโดีดีเดี่นทั�งเน่�อเร่�อง ตัวล้ะคร แล้ะสุำานวนภาษิา แล้ะ
เจ้าพระยาพระคล้ัง (หน) ผู้่้ที�เป็็นแม่กองแป็ล้แล้ะขัดีเกล้าสุำานวนภาษิาของเร่�องสามก๊กหาใชุ่ใครอ่�น
แต่เป็็นตาของสุมเดี็จฯ กรมพระยาเดีชุาดีิศึรเอง ในฐานะที�เป็็นเจ้าพระยาพระคล้ัง (หน) ว่าการกรมท่า
๓๐
แล้ะเป็็นผู้่้อำานวยการแป็ล้สุามก๊ก เจ้าพระยาพระคล้ัง (หน) ย่อมต้องติดีต่อชุาวจีนจำานวนมาก
สุมเดี็จฯ กรมพระยาเดีชุาดีิศึร ผู้่้เป็็น “หล้านตา” เม่�อเสุดี็จไป็มาหาสุ่่ตาของพระองค์ ย่อมต้องมีโอกาสุ
ไดี้ทรงสุนทนาวิสุาสุะแล้กเป็ล้ี�ยนทรรศึนะแล้ะความร่้กับคณะชุาวจีนผู้่้ร่้ทวิภาษิาไทย–จีนไม่มากก็น้อย
อีกทั�งพระบาทสุมเดี็จพระนั�งเกล้้าเจ้าอย่่หัวผู้่้เป็็นพระเชุษิฐาธิราชุ ก็ทรงมีกัล้ยาณมิตรเป็็นชุาวจีน
๓๐ สุมเดี็จฯ กรมพระยาเดีชุาดีิศึรเป็็นพระเจ้าล้่กยาเธอในพระบาทสุมเดี็จพระพุทธเล้ิศึหล้้านภาล้ัย ป็ระสุ่ติแต่เจ้าจอมมารดีานิ�ม
ธิดีาของเจ้าพระยาพระคล้ัง (หน)