Page 20 - 45-3
P. 20

วารสารราชบััณฑิิตยสภา
                                            ปีีที่่� ๔๕ ฉบัับัที่่� ๓  กัันยายน-ธัันวาคม ๒๕๖๓
               12                                         สัังคมไทยกัับสัถาบันพระมหากัษััตริย์ : มุมมองทางประวััติศาสัตร์



               การดำาเนินช่วัิติแก่พสกนิกรโดยทั�วัหน้ากัน ด้วัยเหติุน่�สถ่าบัันพระมูหากษัติริย์จึงเป็นศูนย์รวัมูจิติใจ

               แลัะควัามูยึดมูั�นข้องชนชาวัไทยทั�งปวังอย่างแท้จริง
                        ติามูบัทบััญญัติิข้องรัฐธีรรมูนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบัับัโดยเฉพาะฉบัับัพุทธีศักราช

               ๒๕๔๐ ได้ระบัุข้อบัเข้ติพระราชอำานาจข้องพระมูหากษัติริย์แลัะการดำารงฐานะพระประมูุข้ผู่้ทรงเป็น
               ผู่้นำาข้องประเทศซึ่ึ�งสรุปได้วั่าทรงดำารงอยู่ในฐานะท่�สำาคัญ คือ

                        ๑) พระประมูุข้ คือ ติำาแหน่งสูงสุดข้องประเทศ พระมูหากษัติริย์ทรงดำารงอยู่ในฐานะอันเป็น
               ท่�เคารพสักการะ ผู่้ใดจะลัะเมูิดหรือกลั่าวัหาฟ้้องร้องใด ๆ มูิได้ พระมูหากษัติริย์ทรงมู่ฐานะอยู่เหนือ

               การเมูือง ทรงดำารงพระองค์เป็นกลัางในทางการเมูือง ทรงบัำาเพ็ญพระราชกรณ่ยกิจโดยมูุ่งประโยชน์
               ส่วันรวัมูข้องประเทศชาติิเป็นหลััก จึงทรงอยู่ในฐานะท่�ควัรแก่การเคารพสักการะผู่้ใดจะลัะเมูิด

               ด้วัยวัิธี่การใด ๆ เป็นเชิงหมูิ�นพระบัรมูเดชานุภาพ หรือกระทำาการฟ้้องร้องใด ๆ ติ่อพระมูหากษัติริย์ไมู่ได้
               ถ่ือวั่าเป็นการกระทำาผ่ิดกฎหมูาย

                        ๒) พุทธีมูามูกะแลัะเอกอัครศาสนูปถ่ัมูภก ประเทศไทยประกอบัด้วัยกลัุ่มูชนท่�นับัถ่ือศาสนา
               ติ่าง ๆ หลัายศาสนา พระมูหากษัติริย์ไทยทรงนับัถ่ือพุทธีศาสนาซึ่ึ�งเป็นศาสนาหลัักข้องชาติิ แติ่ในข้ณะ

               เด่ยวักันก็ทรงอุปถ่ัมูภ์ศาสนาอื�น ๆ ด้วัย ทรงให้การสนับัสนุนกิจกรรมูข้องบัรรดาศาสนิกชนข้องทุก
               ศาสนามูากมูายหลัายด้านอย่างเท่าเท่ยมูกัน

                        ๓) จอมูทัพไทย พระมูหากษัติริย์ทรงเป็นผู่้บัังคับับััญชาสูงสุดข้องทหารทั�งประเทศ
               มู่พระราชอำานาจท่�จะทรงประกาศใช้แลัะยกเลัิกกฎอัยการศึก หรือประกาศสงครามู โดยได้รับั

               ควัามูเห็นชอบัจากรัฐสภา
                        บัทบััญญัติิแห่งรัฐธีรรมูนูญยังได้กำาหนดวั่าพระมูหากษัติริย์ทรงใช้อำานาจอธีิปไติยอันเป็น

               อำานาจสูงสุดข้องประเทศท่�มูาจากปวังชนชาวัไทยโดยผ่่านสถ่าบัันหลััก ๓ สถ่าบัันคือ ทรงใช้อำานาจ
               นิติิบััญญัติิผ่่านรัฐสภา อำานาจบัริหารผ่่านคณะรัฐมูนติร่ แลัะอำานาจติุลัาการผ่่านศาลั

                        นอกจากน่�ทรงมู่พระราชอำานาจในการเลัือกแลัะแติ่งติั�งคณะองคมูนติร่ เนื�องจาก
               พระมูหากษัติริย์ทรงบัำาเพ็ญพระราชกรณ่ยกิจมูากหลัายด้าน จำาเป็นติ้องมู่ผู่้ทรงคุณวัุฒิทำาหน้าท่�เป็น

               ท่�ปรึกษาแลัะถ่วัายควัามูเห็นติ่อพระองค์ท่�เร่ยกวั่า “องคมูนติร่” คณะองคมูนติร่ประกอบัด้วัย ประธีาน
               องคมูนติร่ ๑ คน แลัะองคมูนติร่อื�นอ่กไมู่เกิน ๑๘ คน ในการเลัือกประธีานองคมูนติร่ การแติ่งติั�ง

               องคมูนติร่ แลัะการให้องคมูนติร่พ้นจากติำาแหน่ง ย่อมูเป็นไปติามูพระราชอัธียาศัยข้องพระมูหากษัติริย์
               ประธีานรัฐสภาเป็นผู่้ลังนามูรับัสนองพระบัรมูราชโองการแติ่งติั�งหรือถ่อดถ่อนประธีานองคมูนติร่ แลัะ

               ให้ประธีานองคมูนติร่รับัสนองพระบัรมูราชโองการในการแติ่งติั�งหรือถ่อดถ่อนองคมูนติร่







                                                                                                  31/3/2565 BE   09:16
       _21-0851(006-035)1E.indd   12                                                              31/3/2565 BE   09:16
       _21-0851(006-035)1E.indd   12
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25