Page 133 - 46-1
P. 133

วารสารราชบััณฑิิตยสภา
                                          ปีีที่่� ๔๖ ฉบัับัที่่� ๑  มกราคม-เมษายน ๒๕๖๔
             ศาสตราจารย์์ ภกญ. ดร.พรอนงค์์ อร่ามวิิทย์์ และค์ณะ                             125


             สารสก่ดเห็็ดห็ลินจืือย่งป็ระกอบำด้วยฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ท่�ส่งผลต่อการย่บำย่�งการทำางานข้อง

             สารท่�ออกฤทธิิ�ทำาลายสารสื�อป็ระสาท (acetylcholinesterase inhibitor) ในห็นูอ่กด้วย จืากการ

             ศึกษาฤทธิิ�ต้านอนุมูลอิสระข้องสารสก่ดเห็็ดห็ลินจืือในอาสาสม่ครสุข้ภาพด่ข้องช่ิวและคณะ (Chiu
             et al., 2017) พบำว่าการร่บำป็ระทานสารสก่ดเห็็นห็ลินจืือติดต่อก่นทุกว่นเป็็นเวลา ๖ เดือน ช่่วยเพิ�ม
             ฤทธิิ�ต้านอนุมูลอิสระในเลือดและเพิ�มการทำางานข้องเอนไซูม์ท่�ออกฤทธิิ�ต้านอนุมูลอิสระได้สูงกว่า

             อาห็ารห็ลอกอย่างม่น่ยสำาค่ญทางสถั่ิต (p<0.05) และย่งส่งผลต่อการช่ะลอว่ยอ่กด้วย สอดคล้องก่บำ

             การศึกษาข้องวอช่เทล-แกเลอร์และคณะ (Wachtel-Galor et al., 2004) ท่�พบำว่าอาสาสม่ครท่�
             ร่บำป็ระทานสารสก่ดเห็็ดห็ลินจืือม่ค่าสารต้านอนุมูลอิสระเพิ�มสูงข้ึ�น  นอกจืากน่�  ผลจืากการศึกษาคร่�งน่�
             ย่งสอดคล้องก่บำการศึกษาผลข้องการร่บำป็ระทานถั่่�งเช่่าและเห็็ดห็ลินจืือแคป็ซููลในน่กก่ฬาจื่กรยาน

             ข้องรอสซู่และคณะ (Rossi et al., 2014) อ่กด้วย โดยรอสซู่และคณะ พบำว่าฤทธิิ�ต้านอนุมูลอิสระ

             ในเลือดข้องน่กก่ฬากลุ่มท่�ร่บำป็ระทานถั่่�งเช่่าและเห็็ดห็ลินจืือแคป็ซููลทุกว่นเป็็นเวลา ๓ เดือน สูงกว่า
             ก่อนร่บำป็ระทานอย่างม่น่ยสำาค่ญทางสถั่ิติ (p<0.05) และย่งพบำว่าฤทธิิ�ต้านอนุมูลอิสระข้องน่กก่ฬา
             กลุ่มด่งกล่าวสูงกว่าฤทธิิ�ต้านอนุมูลอิสระข้องน่กก่ฬากลุ่มท่�ร่บำป็ระทานอาห็ารห็ลอกอย่างม่น่ยสำาค่ญ

             ทางสถั่ิติ (p<0.05)

                     ทางด้านความป็ลอดภ่ย จืากผลการศึกษาน่� ไม่พบำอาการไม่พึงป็ระสงค์ได้แก่ อาการห็ายใจื
             ผิดป็รกติ ห็อบำห็ืด ผื�นแดง บำวม และตุ่มนำ�าใส และไม่พบำอาการท้องเส่ย จืากการร่บำป็ระทานสารสก่ด
             ถั่่�งเช่่าผสมสารสก่ดเห็็ดห็ลินจืือในอาสาสม่ครสุข้ภาพด่ ก่อนและห็ล่งการใช่้สารสก่ด ๑, ๒ และ

             ๓ เดือน สอดคล้องก่บำการศึกษาทางด้านความป็ลอดภ่ยข้องถั่่�งเช่่าในคนท่�ย่งไม่พบำรายงานการ

             ก่อให็้เกิดพิษจืากการร่บำป็ระทานถั่่�งเช่่า (Tuli et al., 2014) ยฺห็ว่ และคณะ (Yu et al., 2019)
             ศึกษาการร่บำป็ระทานอาห็ารเสริมถั่่�งเช่่าในผู้ป็่วยถัุ่งลมโป็่งพองจืำานวน ๑,๒๓๘ คน พบำว่าผู้ท่�
             ร่บำป็ระทานอาห็ารเสริมถั่่�งเช่่าม่การทำางานข้องป็อด อาการถัุ่งลมโป็่งพอง และม่คุณภาพช่่วิตด่ข้ึ�น

             โดยไม่พบำผลข้้างเค่ยงรุนแรงจืากการร่บำป็ระทานอาห็ารเสริมถั่่�งเช่่า ซูึ�งเป็็นไป็ในทางเด่ยวก่บำการศึกษา

             ข้องห็วางและคณะ (Wang et al., 2016) ท่�พบำว่าผู้ป็่วยห็อบำห็ืดจืำานวน ๖๐ คนท่�ร่บำป็ระทานถั่่�งเช่่า
             แคป็ซููลเป็็นเวลา ๓ เดือน ม่คุณภาพช่่วิตและระด่บำ Immunoglobulin G (IgG) เพิ�มข้ึ�นมากกว่า
             ผู้ท่�ไม่ได้ร่บำป็ระทาน และไม่พบำความแตกต่างข้องผลข้้างเค่ยงในกลุ่มท่�ร่บำป็ระทานและไม่ร่บำป็ระทาน

             อาห็ารเสริมถั่่�งเช่่า สำาห็ร่บำผลการศึกษาทางด้านความป็ลอดภ่ยข้องเห็็ดห็ลินจืือ จืากการศึกษาข้อง

             วิกส์และคณะ (Wicks et al., 2007) พบำว่าการร่บำป็ระทานเห็็ดห็ลินจืือสก่ดข้นาด ๒ กร่ม ว่นละ
             ๒ คร่�ง เป็็นเวลา ๑๐ ว่นในอาสาสม่ครสุข้ภาพด่ ม่ความป็ลอดภ่ย ไม่ก่อให็้เกิดผลข้้างเค่ยง เป็็นไป็ใน
   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138