Page 205 - 45 2
P. 205
วารสารราชบััณฑิิตยสภา
ปีีที่่� ๔๕ ฉบัับัที่่� ๒ พฤษภาคม-สิิงหาคม ๒๕๖๓
ศาสตราจารย์์ ดร.อลิิศรา เรืองแสง แลิะนาย์ประวรรธน์ สุขพููลิ 195
ก๊ล่่มจ่ลินทรีย์ในก๊ระบว่นผลิตไบโอไฮเทนโดยก๊ารย่อยสลายแบบไร้อาก๊าศสองขั้้�นตอนถูก๊
จำาแนก๊ออก๊เป็็น ๒ ก๊ล่่ม (ตารางที� ๑) ได้แก๊่ (๑) ก๊ล่่มแบคทีเรียผลิตก๊รดซึ�งทำาหน้าที�เป็ลี�ยนสารอินทรีย์
เป็็นแก๊๊สไฮโดรเจน แก๊๊สคาร์บอนไดออก๊ไซด์ และก๊รดไขั้ม้นระเหยง่าย แบคทีเรียในก๊ล่่มนี�มีอ้ตราก๊าร
เจริญเร็ว่ ช้อบภาว่ะที�เป็็นก๊รด (ค่าคว่ามเป็็นก๊รด-ด่าง ๕-๖) และทนต่อก๊ารเป็ลี�ยนแป็ลงขั้องสิ�งแว่ดล้อม
ส่ว่นใหญ่ป็ระก๊อบด้ว่ยแบคทีเรียไม่ใช้้อาก๊าศ (Strictly anaerobes) และแบคทีเรียที�เจริญได้ท้�งใน
ภาว่ะที�มีออก๊ซิเจนและไม่มีออก๊ซิเจน (Facultative anaerobes) เช้่น Thermoanaerobacterium
sp., Caldicellulosiruptor sp., Clostridium sp., Enterobacter sp., Thermotoga sp. แบคทีเรีย
Clostridium sp. บางสายพื่้นธิ่์มีระบบเอนไซม์พื่ิเศษที�เรียก๊ว่่า เซลลูโลโซม (cellulosome) ป็ระก๊อบ
ด้ว่ยเอนไซม์หลาก๊หลายช้นิดที�สามารถย่อยสลายว่้สด่ลิก๊โนเซลลูโลส (lignocellulosic materials)
เช้่น เอนไซม์เซลลูเลส (cellulase) เอนไซม์เฮมิเซลลูเลส (hemicellulase) เอนไซม์เอนโดก๊ลูคาเนส
(endoglucanases) (Salakkam et al., 2019 : 7) ด้งน้�น มว่ลช้ีว่ภาพื่เหลือทิ�งทางก๊ารเก๊ษตรที�เป็็น
ว่้สด่ลิก๊โนเซลลูโลสจึงมีศ้ก๊ยภาพื่สูงในก๊ารนำาไป็ใช้้เป็็นซ้บสเตรตในก๊ารผลิตไฮโดรเจน (๒) ก๊ล่่มแบคทีเรีย
และอาร์เคียผลิตแก๊๊สมีเทน ซึ�งทำาหน้าที�เป็ลี�ยนก๊รดไขั้ม้นระเหยง่ายเป็็นแก๊๊สมีเทนและแก๊๊สคาร์บอน
ไดออก๊ไซด์ จ่ลินทรีย์ก๊ล่่มนี�เป็็นแบคทีเรียที�มีอ้ตราก๊ารเจริญช้้า ช้อบภาว่ะที�มีค่าคว่ามเป็็นก๊รด-ด่างเป็็น
ก๊ลางค่อนไป็ทางด่าง และมีคว่ามไว่ต่อก๊ารเป็ลี�ยนแป็ลงสิ�งแว่ดล้อมมาก๊ แบคทีเรียในก๊ล่่มนี� เช้่น
Methanosarcina sp., Methanosaeta sp., Methanoculleus sp. ในบางคร้�งสามารถพื่บ
ก๊ล่่มแบคทีเรียผลิตแก๊๊สไฮโดรเจนในขั้้�นตอนก๊ารผลิตแก๊๊สมีเทนได้เช้่นก๊้น โดยที�แบคทีเรียไฮโดรจีโน
โทรฟิก๊เมทาโนเจน เช้่น Methanothermobacter defluvii, M. thermautotrophicus
สามารถใช้้แก๊๊สไฮโดรเจนที�ถูก๊ผลิตขั้ึ�นเพื่ื�อผลิตแก๊๊สมีเทนได้ จึงทำาให้ไม่พื่บแก๊๊สไฮโดรเจนเมื�อขั้้�นตอน
ก๊ารผลิตแก๊๊สมีเทนเขั้้าสู่สถานะอยู่ต้ว่ (steady state) (O-Thong et al., 2018 : 88)