วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567
นายกฤษฎา คงคะจันทร์ เลขาธิการราชบัณฑิตยสภา นำคณะผู้บริหารของสำนักงานราชบัณฑิตยสภา ถวายภัตตาหารเพลและปัจจัยแด่พระภิกษุสงฆ์ ณ พระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ

นายกฤษฎา คงคะจันทร์  เลขาธิการราชบัณฑิตยสภา นำคณะผู้บริหารของสำนักงานราชบัณฑิตยสภา ถวายภัตตาหารเพลและปัจจัยแด่พระภิกษุสงฆ์ ณ พระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ และไหว้ศาลท้าวกบิลพรหมหน้าสำนักงานราชบัณฑิตยสภา  เนื่องในวันธรรมสวนะ (วันพระ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๒) และวันนี้ยังเป็นวันสำคัญในช่วงเทศกาลตรุษจีนหรือวันขึ้นปีใหม่ของจีน คือเป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนทำพิธีไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษ ด้วยอาหารคาวหวานและเครื่องดื่ม เช่น เป็ด ไก่ ขนมเข่ง ขนมเทียน ผลไม้ต่าง ๆ ชาจีน เหล้าชนิดต่าง ๆ กระดาษเงินกระดาษทอง ก่อนวันขึ้นปีใหม่ในวันถัดไปเรียกว่า วันถือ ตรงกับวันที่ ๑ เดือน ๑ ของจีนตามวันทางจันทรคติ เป็นวันเริ่มแรกของปีใหม่ จึงเริ่มด้วยสิ่งที่เป็นมงคล ทุกคนจะพูดหรือทำแต่สิ่งที่ดี เมื่อพบกันก็มักจะอวยพรกันด้วยคำว่า “ซิงเจียหยู่อี่ ซิงนี้ฮวกไช้” และผู้ใหญ่จะมอบเงินที่บรรจุในซองสีแดงแก่ลูกหลานเพื่อเป็นขวัญและสิริมงคล ในวันนี้ชาวไทยเชื้อสายจีนจะไม่ทำงาน ไม่ทำสิ่งที่เหนื่อยยาก เพื่อให้เป็นเคล็ดว่าได้เริ่มปีใหม่ที่สุขสบาย

ชาวไทยเชื้อสายจีนถือว่าเทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลรื่นเริงที่จะพูดและทำแต่สิ่งที่เป็นมงคล ได้แก่ การไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้บรรพบุรุษ เลี้ยงสังสรรค์ในครอบครัว และพักผ่อนหลังจากทำงานอย่างหนักมาตลอดทั้งปี คำอวยพรคำว่า “ซิงเจียหยู่อี่ ซิงนี้ ฮวกไช้” แปลตรงตัวว่า เดือนใหม่มีสุข ปีใหม่เจริญรุ่งเรือง หมายความว่า ปีใหม่ขอให้มีความสุขความรุ่งเรือง ชาวไทยเชื้อสายจีนจะเขียนคำอวยพรนี้ในกระดาษสีแดง ซึ่งเป็นสีมงคล ติดไว้ที่หน้าบ้าน และนิยมให้ส้มที่มีเปลือกสีเหลืองทองแก่กัน เป็นสัญลักษณ์ว่าให้สิ่งที่มีค่าและเป็นมงคลแก่บุคคลที่นับถือ



ดูข่าวทั้งหมด