สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

320 กวีวัจน์วรรณนา สรรเสริญพระเกียรติของพระนเรศวรที่ทรงเป็นกษัตริย์ที่เพียบพร้อม ด้วยทศพิธราชธรรม ท� ำให้กรุงศรีอยุธยามีความเจริญรุ่งเรืองและ ประชาชนอยู่กันอย่างเป็นสุข วรรคทองบทที่ยกมาข้างต้นนี้ เป็นบทนิราศที่แทรกอยู่ในช่วงการ เดินทัพของพระมหาอุปราชาการได้พบเห็นธรรมชาติต่าง ๆ ในระหว่าง การเดินทางท� ำให้พระมหาอุปราชาหวนคิดถึงเหล่านางสนมที่พระองค์ ทรงจากมา พระองค์จึงทรงร� ำพันโดยใช้ธรรมชาติเป็นสื่อในการครวญ ถึงนางผู้เป็นที่รัก ความหมายของวรรคทอง พระมหาอุปราชากล่าวร� ำพันว่า แม้ดอกสายหยุดจะหยุดส่งกลิ่น หอมในยามสาย แต่ความเสน่หาที่พระองค์มีต่อนางผู้เป็นที่รักนั้นไม่ ได้หยุดตามไปด้วย เพราะมิอาจหยุดรักนางได้ พระองค์จึงโศกเศร้า ยิ่งยามที่ต้องจากนาง อีกกี่คืนกี่วันพระองค์จึงจะได้พบกับนางอีก และ ความเศร้าในใจจะได้สิ้นสุดลง ความคิดถึงที่พระองค์มีต่อนางอยู่ทุก วันตั้งแต่เช้าจรดค�่ ำนี้ช่างยากเหลือเกินที่จะหยุดยั้งได้ ความดีเด่น โคลงบทนี้เป็นบทครวญที่น� ำชื่อดอกไม้มาเป็นสื่อในการพรรณนา ความรักได้อย่างมีวรรณศิลป์แยบคายยิ่ง กวีน� ำเอาค� ำว่า “สาย” และ “หยุด” ในชื่อของดอกสายหยุดมาสร้างความหมายที่เชื่อมโยงกับ ความรักความคิดถึงในหลายมิติ ในมิติแรกกวีเปรียบเทียบความรักกับ ดอกสายหยุดว่า แม้ดอกสายหยุดจะหยุดส่งกลิ่นหอมในยามสาย แต่ ความรักความคิดถึงที่พระมหาอุปราชามีต่อนางผู้เป็นที่รักนั้นมิได้หยุด ไปตามเวลาเหมือนกลิ่นหอมของดอกไม้ ในมิติที่สอง กวีสร้างความ หมายที่เชื่อมโยงต่อเนื่องกับความหมายแรกว่า เพราะความรักที่พระ มหาอุปราชามีต่อนางนั้นมิอาจหยุดได้ ความเศร้าจากการจากนางจึง มิอาจหยุดได้เช่นกัน การที่จะหยุดความเศร้านี้จึงมีเพียงการได้กลับ ไปพบกับนาง การครวญว่า “กี่คืนกี่วันวาย วางเทวศ ราแม่” จึงมิได้มี ความหมายว่า อีกเมื่อใดความเศร้านี้จะหมดไป แต่มีนัยเชื่อมโยงว่า �������������� 5 of 5_140809_CC.indd 320 8/8/2557 BE 3:10 PM

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=