สำนักงานราชบัณฑิตยสภา
253 วัสสการพราหมณ์เดินทางไปถึงแคว้นวัชชีแล้วใช้วาทศิลป์โน้มน้าว ใจจนกษัตริย์ลิจฉวีทรงรับไว้ในต� ำแหน่งผู้ท� ำหน้าที่ตัดสินคดีความ และถวายพระอักษรแด่เหล่าพระโอรส เมื่อท� ำหน้าที่จนเป็นที่ไว้วาง พระทัยได้ระยะหนึ่งแล้ว วัสสการพราหมณ์ก็ยุยงให้เหล่าพระโอรส ระแวงแคลงใจกัน จนท� ำให้เกิดความแตกแยกในหมู่กษัตริย์ลิจฉวี หลัง จากนั้นวัสสการพราหมณ์ลอบส่งข่าวไปกราบทูลพระเจ้าอชาตศัตรู พระองค์จึงยกทัพมาตีแคว้นวัชชีได้อย่างง่ายดาย วรรคทองที่ยกมานี้เป็นตอนที่วัสสการพราหมณ์ท� ำทีเป็นทัดทาน พระเจ้าอชาตศัตรูที่ต้องการจะยกทัพไปตีแคว้นวัชชี พระเจ้าอชาต- ศัตรูจึงแสร้งท� ำเป็นกริ้วและบริภาษวัสสการพราหมณ์อย่างรุนแรงตาม อุบายที่วางไว้ ความหมายของวรรคทอง พระเจ้าอชาตศัตรูบริภาษวัสสการพราหมณ์ว่าเป็นถึงพราหมณ์ ปุโรหิตแต่ความคิดอ่านไม่ต่างจากทาสชั้นเลว ศึกสงครามยังไม่มาถึง ข้าศึกจะมีจ� ำนวนมากน้อยเพียงใดก็ยังไม่เห็น และศึกครั้งนี้จะยากง่าย ประการใดก็ยังไม่รู้ แต่กลับอวดฉลาดทัดทานด้วยความขลาดกลัว ซึ่ง เท่ากับเป็นการหมิ่นเดชานุภาพของพระองค์ เหมือนกาที่กลัวนายพราน ผู้เชี่ยวชาญการยิงธนู ทั้งที่พรานนั้นยังไม่ได้น้าวคันธนูเลย หรือเปรียบ เหมือนแม่ทัพที่ยังไม่เห็นธงของทัพข้าศึกเลยก็ล่าถอยเสียก่อนแล้ว ความดีเด่น วรรคทองที่ยกมานี้เป็นบท “พิโรธวาทัง” ที่แสดงอารมณ์โกรธ ของพระเจ้าอชาตศัตรูตามอุบายที่วางไว้ได้อย่างเห็นภาพชัดเจน ความ โกรธของพระองค์นั้นเกิดจากทั้งถูกขัดพระทัย ทั้งทรงขุ่นเคืองบุคคล ผู้เป็นถึงพราหมณ์ปุโรหิตแต่กลับมีใจขลาดกลัวเมื่อต้องท� ำศึก และ ทั้งทรงรู้สึกว่าถูกหมิ่นพระเกียรติยศ เพราะการที่วัสสการพราหมณ์ ทัดทานพระองค์ เท่ากับเป็นการดูหมิ่นพระองค์ว่าขี้ขลาดเช่นเดียว กับตัวพราหมณ์ ทั้งยังดูหมิ่นกองทัพของพระองค์ว่าไร้แสนยานุภาพ ในการท� ำศึกด้วย เอออุเหม่นะมึงชิช่างกระไร สามัคคีเภทค� ำฉันท์ �������������� 5 of 5_140809_CC.indd 253 8/8/2557 BE 3:09 PM
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=