สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

234 กวีวัจน์วรรณนา นี้ก็เปรียบเสมือนนกที่ต้องจากรัง บุตรภรรยาและครอบครัวที่เฝ้ารอ อยู่ที่บ้านก็จะคอยชะแง้หาว่าเมื่อใดผู้ที่จากไปจะได้กลับมา และเมื่อ ผู้ที่เฝ้าคอยได้ยินเสียงฆ้องตีบอกเวลาในยามค�่ ำ ก็จะยิ่งคิดถึงผู้ที่จาก ไปจนต้องร�่ ำไห้ออกมาด้วยความสะเทือนใจ ในยามดึกพระจันทร์และ ดวงดาวเริ่มลดต�่ ำจางแสงลง น�้ ำค้างพร่างพรมลงมาท� ำให้อากาศเย็นฉ�่ ำ ไปทั่ว ลมพัดมาเบา ๆ โชยกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของมวลดอกไม้ เร้าให้เกิด ความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวอ้างว้าง เหล่าทหารจึงเกิดความสงสารผู้เฝ้ารอ อยู่ที่บ้านที่คงเต็มไปด้วยความคิดถึง โหยหา และอ้างว้างวังเวงเช่นกัน ความดีเด่น วรรคทองบทนี้โดดเด่นด้านการสร้างจินตภาพที่เร้าให้ผู้ฟังเกิด ความรู้สึกอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวใจและคิดถึงบุคคลอันเป็นที่รักที่ต้อง พลัดพรากจากมา โดยการพรรณนาภาพ เสียง และบรรยากาศที่กล่าว ถึงทั้งอารมณ์ความรู้สึกของครอบครัวและคนรักที่รอคอยอยู่ที่บ้าน และอารมณ์ความรู้สึกของผู้ที่ต้องเป็นฝ่ายจากบ้านและครอบครัว มา ในมิติแรก เพลงปี่เร้าให้ผู้ฟังบังเกิดความอ้างว้างวังเวงใจโดยการ พรรณนา “ให้คนคิดถึงถิ่นถวิลหวัง” คือคิดถึงถิ่นฐานบ้านเกิดและ ครอบครัวที่พรากจากมา กวีพรรณนาภาพและความรู้สึกของคนที่เฝ้า รออยู่ที่บ้านได้อย่างชัดเจนว่าคงได้แต่ “แลชะแง้คอย” วันที่จะได้กลับ มาพบหน้ากันอีกด้วยความห่วงหากังวล และเมื่อถึง “ยามค�่ ำย�่ ำฆ้อง” ผู้ที่อยู่ที่บ้านก็จะยิ่งเศร้าสร้อยโหยหาวังเวง เพราะการย�่ ำฆ้องเพื่อบอก เวลาค�่ ำนั้นเป็นสัญญาณของการหยุดพักจากการงานและกลับบ้านไป หาครอบครัวและคนที่รัก การได้ยินเสียงฆ้องจึงเตือนให้ผู้ที่อยู่ในบ้าน นึกถึงผู้ที่ออกไปท� ำงานและก� ำลังจะกลับบ้าน แต่เมื่อผู้ที่ออกไปท� ำงาน ยังอยู่ห่างไกล ไม่สามารถกลับบ้านมาได้ เสียงฆ้องจึงเป็นสิ่งที่ตอกย�้ ำ ให้คนที่บ้านรู้สึกสะเทือนใจจนถึงกับต้องหลั่งน�้ ำตา การพรรณนาภาพ และความรู้สึกของครอบครัวและคนรักที่เฝ้ารอคอยอยู่ที่บ้านนี้ นับว่า เหมาะสมและสอดคล้องกับจุดประสงค์ของเพลงปี่ที่ต้องการเร้าให้ ทหารฝ่ายข้าศึกรู้สึกเป็นห่วงคนที่อยู่ข้างหลัง และหวนระลึกถึงความ สุขความอบอุ่นขณะอยู่ที่บ้านกับครอบครัว จนไม่มีจิตใจคิดจะสู้รบ �������������� 5 of 5_140809_CC.indd 234 8/8/2557 BE 3:09 PM

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=