สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

163 ชาววังทั้งหลายผู้งดงามและรู้จักปรนนิบัติเอาใจ พระชัยเสนจึงกล่าวว่า ถ้ามัทนารักตอบก็จะไม่สนใจสตรีอื่นอีก “เพราะนารี ณ วังใน บมีใคร จะงามพักตร์ ฤงามรูปวิไลยลักษณ์ เสมอเจ้าบพึงมี” ทั้งยังเปรียบเหล่า สนมกับกา ส่วนมัทนาคือหงส์ทอง ดังนั้น พระองค์จะกลับไปชื่นชม เหล่าสนมอีกไม่ได้ เพราะ “ก็พี่นี้สิเคยชม วิหคหงสะเลอสรร จะกลับ ชมอิกานั้น บได้แล้วนะแก้วตา” เมื่อมัทนาได้ยินโวหารตอบที่ทั้งอ่อน หวานและคมคายยิ่งนี้ ก็ยังมิได้ปักใจเชื่อในทันที แต่นางมิได้กล่าวค� ำ อันแสดงความแคลงใจออกมาโดยตรง กลับใช้วาทศิลป์อันชาญฉลาด โดยอ้างส� ำนวนโบราณแทน ส� ำนวนนั้นสอนว่า ในยามรักชายมัก “ร้อย ลิ้นกะลาวน” พูดได้คล่องแคล่วไพเราะน่าฟังแต่เชื่อถือเอาแน่ไม่ได้ เพราะเป็นค� ำพูดตลบตะแลงพลิกแพลงด้วยเล่ห์เหลี่ยมเพื่อให้ส� ำเร็จ ประโยชน์ คือให้หญิงหลงเชื่อ การเลือกใช้ค� ำที่หมายถึงการกระท� ำที่ ไม่จริงใจหรือหลอกลวงของชายมาวางซ้อนกันเป็นจ� ำนวนมาก ตั้งแต่ “ประจบ” โดยพูดหรือท� ำเพื่อให้รักชอบตน “พะนอ” โดยการเอาอก เอาใจเกินสมควร “พลอด” โดยการพูดแสดงความรักอย่างอ่อนหวาน น่าฟังอย่างต่อเนื่อง “ปลอดปลิ้น” โดยการใช้อุบายล่อลวงเพื่อให้ส� ำเร็จ ประโยชน์ตน และ “หลอก” โดยการท� ำให้เข้าใจผิด เป็นการแสดงให้ เห็นความแคลงใจของมัทนาได้อย่างเด่นชัด ในการแก้ความแคลงใจของมัทนา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัวทรงให้พระชัยเสนแสดงปฏิภาณไหวพริบอันเฉียบคมผ่านค� ำ ตอบที่น� ำเอาส� ำนวน “ร้อยลิ้น” มาตีความหมายตามตัวอักษรว่า หาก ตนมีลิ้นซึ่งเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่ช่วยในการออกเสียงอยู่มากมาย ทุก ๆลิ้นไม่เพียงจะ “รุม”ประกาศค� ำรักต่อนางเพียงผู้เดียวแต่ยังจะย�้ ำ ค� ำสัญญาว่าจะรักนางตลอดไปไม่มีวันคลายอีกด้วย ค� ำตอบที่ซ�้ ำค� ำ ว่า “ลิ้น” อยู่หลายครั้งนี้เป็นทั้งการลบล้างค� ำกล่าวหาว่าถ้อยค� ำของ ตนเป็นเพียงค� ำหวานที่เอาแน่นอนไม่ได้ และเป็นการกล่าวย�้ ำยืนยัน ความรักที่ทั้งมากมายและมั่นคงในเวลาเดียวกัน พระชัยเสนพิสูจน์ ความรักอันหนักแน่นของตนด้วยการ “ประกาศถ้อยปะฏิญญา” และ “สบถให้ละต่อหน้า พระจันทร์แจ่ม ณ เวหน” คือกล่าวค� ำมั่นสัญญา กระหม่อมฉันก็เคยทราบ มัทนะพาธา �������������� 5 of 5_140809_CC.indd 163 8/8/2557 BE 3:09 PM

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=