สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

116 กวีวัจน์วรรณนา เปิดหน้าต่างออกมาพบให้ได้ชื่นใจ อันเดรกล่าวว่า แม้ยามกลางวันที่ ดวงอาทิตย์ส่องแสงสว่างกระจ่าง แต่โลกกลับมืดมนนักเมื่อไม่ได้เห็น หน้านาง ยามกลางคืนก็เช่นกัน แม้มีดวงจันทร์ ทอแสงงามสุกใส แต่ เมื่อมิได้ยลโฉมอันงามพึงใจของนาง โลกก็มืดมนดุจเดียวกัน ขอให้นาง ที่รักผู้เป็นดังดวงตะวันแห่งชีวิตและดวงเดือนที่ส่องแสงสว่างไปทั่วฟ้า ได้โปรดเยี่ยมหน้าออกมาให้ตนได้ยลให้เย็นใจด้วยเถิด ความดีเด่น วรรคทองบทนี้เป็นโวหารฝากรักที่คมคายและไพเราะอ่อนหวาน สะท้อนให้เห็นอารมณ์ความรู้สึกอันลึกซึ้งของชายหนุ่มยามแรกรัก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงน� ำเสนอความรักของ อันเดรที่มีต่ออันโดรเมดาโดยการแสดงให้เห็นความส� ำคัญของนาง ที่มีต่อชีวิตของเขาผ่านกลวิธีทางวรรณศิลป์ที่ส� ำคัญ ๒ ประการคือ การน� ำภาพที่แตกต่างตรงกันข้ามมาวางเทียบเคียงกัน และการใช้ ภาพพจน์ที่แปลกใหม่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงน� ำภาพความสว่าง จากแสงธรรมชาติและความมืดมิดในจิตใจของตัวละครมาเทียบ เคียงกันเพื่อแสดงอารมณ์เศร้าหมองหม่นเพราะขาดนางที่รักได้อย่าง แยบยล ดังที่อันเดรพรรณนาความรู้สึกของเขาว่า แม้จะเป็นเวลากลาง วันที่ดวงอาทิตย์ส่องแสงสว่าง แต่แสงธรรมชาติอันกระจ่างตาก็ยังไม่ เพียงพอที่จะให้ความสว่างแก่จิตใจของเขาได้ เพราะการไม่ได้ “เห็น หน้านงลักษณ์” ท� ำให้เขารู้สึกว่าโลก “ยิ่งมืดใหญ่” เต็มไปด้วยความ โดด เดี่ยวหนาวเหน็บและโศกสลดหดหู่ และแม้ในยามราตรีที่มีดวงจันทร์ ทอแสงงาม แต่เมื่อไม่ได้เห็นใบหน้าอันผุดผ่องซึ่งสร้างความเบิกบาน พึงอกพึงใจให้แก่เขา ชีวิตของเขาก็ “มืดมน” เพราะขาดสิ่งหล่อเลี้ยง จิตใจอันน� ำมาซึ่งความสุขแก่ชีวิต แม้แสงอันงามสว่างสุกใสของดวง จันทร์ก็ไม่สามารถขจัดความรู้สึก “มืดมน” นี้ออกไปได้ ในกลอนบทถัดมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรง ให้อันเดรกล่าวเปรียบเทียบอันโดรเมดาเป็นธรรมชาติสองสิ่งคือดวง �������������� 5 of 5_140809_CC.indd 116 8/8/2557 BE 3:09 PM

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=