สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

104 กวีวัจน์วรรณนา ของพ่อแม่มีแต่ผลดีแก่ลูก ส่วนที่พึ่งที่แท้จริงของแต่ละบุคคลมีเพียง หนึ่งเดียวเท่านั้นคือตนเอง เกิดมาเป็นมนุษย์จึงต้องรู้จักคิดไตร่ตรอง ด้วยปัญญาให้ถี่ถ้วนจนเห็นกระจ่างชัดก่อนจึงจะเจรจากับใคร ในการ คบคน ก็ควรรู้จักคิดอ่านให้รอบคอบ หากใครท� ำดีกับเรา เราก็พึงท� ำ ดีตอบ หากใครชังเรา เราก็ไม่พึงให้ความรักตอบแทนเขา วิชาความรู้ อาจเป็นสิ่งส� ำคัญที่สุดในด� ำรงชีวิต แต่ยังไม่เท่ากับปัญญาที่รู้รักษาตน ให้รอดพ้นจากภยันตรายหรือสิ่งชั่วร้ายทั้งปวงได้ ความดีเด่น วรรคทองที่ยกมานี้โดดเด่นเรื่องให้คติในการคบคนและการ ด� ำรงชีวิตผ่านเนื้อหาค� ำสอนที่มีเอกภาพ เริ่มจากการแสดงให้เห็น ว่า ธรรมชาติของมนุษย์มีความซับซ้อนและไม่น่าไว้วางใจ จึงเป็น ธรรมดาที่อาจมีบุคคลผู้ไม่ประสงค์ดีอยู่มากมายรอบตัวเรา เราจึงต้อง ระมัดระวังเมื่อคบหากับคนอื่น อย่างไรก็ตาม ในโลกนี้ก็ยังมีบุคคลที่ จริงใจต่อเราคือพ่อแม่ของเรานั่นเอง แต่ถึงกระนั้น พ่อแม่ก็มิอาจอยู่ เป็นที่พึ่งของเราได้ตลอดไป มีแต่ตัวเราเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริง ของตนเองได้ ดังนั้น เราจึงต้องเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์และรู้จักใช้ สติปัญญาไตร่ตรองด้วยความรอบคอบเพื่อจะด� ำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ ได้อย่างราบรื่นปลอดภัย กวีน� ำเสนอคติดังกล่าวผ่านการสอนอย่างตรงไปตรงมาประกอบ กับการใช้ภาพพจน์เปรียบเทียบเพื่อให้ค� ำสอนกระจ่างชัดเจน เช่นพระ ฤๅษีสอนสุดสาครด้วยถ้อยค� ำตรงไปตรงมาว่า “อย่าไว้ใจมนุษย์” และ ใช้ความเปรียบอธิบายเหตุผลว่า เพราะจิตใจของมนุษย์นั้น “ลึกล�้ ำ เหลือก� ำหนด” ไม่สามารถมองเห็นหรือคาดคะเนระดับความลึกได้การ จะเข้าใจจิตใจของบุคคลแต่ละคนอย่างถ่องแท้เป็นเรื่องยาก เพราะ จิตใจเป็นสิ่งที่อยู่ภายใน กวียังเปรียบเทียบต่อไปว่า จิตใจของมนุษย์ ไม่ซื่อตรงและคดเคี้ยวยิ่งกว่าเถาวัลย์ที่คดเคี้ยวโดยธรรมชาติ ดังนั้น เราจึงไม่ควรไว้ใจใครง่าย ๆ ความเปรียบนี้ท� ำให้เข้าใจธรรมชาติของ จิตใจมนุษย์ได้อย่างเห็นภาพชัดเจน �������������� 5 of 5_140809_CC.indd 104 8/8/2557 BE 3:09 PM

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=