สำนักงานราชบัณฑิตยสภา
73 อนุสรณ์ในการพระราชทานเพลิงศพ ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร จ� ำนวนผู้เรียนในมหาวิทยาลัยเปิดมีจ� ำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากจนมีสัดส่วนเป็นประมาณ ๓ ใน ๔ ส่วนของ จ� ำนวนผู้เรียนในมหาวิทยาลัยไทยทั้งหมด ในช่วงเวลาดังกล่าว ได้มีการยกฐานะวิทยาลัยต่าง ๆ โดยเฉพาะทางด้านเทคนิคและอาชีวศึกษา และทางการศึกษาขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยและสถาบันอีกหลายแห่ง ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ตัวอย่าง เช่น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เฉพาะสถาบันอุดมศึกษาเอกชนนั้น รัฐได้มีนโยบายให้เอกชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาระดับ อุดมศึกษา จึงมีวิทยาลัยเอกชนเกิดขึ้นและขยายตัวอย่างรวดเร็ว ใน พ.ศ. ๒๕๒๘ ก็ได้มีการยกฐานะ วิทยาลัยเอกชนขึ้นเป็นมหาวิทยาลัย ๔ แห่งด้วยกัน คือ มหาวิทยาลัยพายัพ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มหาวิทยาลัยเอกชนเปิดการสอนส่วนใหญ่ ในสาขาวิชาบริหารธุรกิจ นิติศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ การพยาบาล วิศวกรรมศาสตร์ และ โปลีเทคนิค กล่าวโดยสรุปแล้ว นับว่าการด� ำเนินงานอุดมศึกษาและมหาวิทยาลัยของประเทศได้มีการขยายตัว อย่างมากและรวดเร็วในช่วง ๒ ทศวรรษที่ผ่านมา ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีมหาวิทยาลัยและสถาบัน ในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย ๑๘ แห่ง โดยเป็นของรัฐ ๑๔ แห่ง และของเอกชน ๔ แห่ง ทั้งนี้ไม่รวมถึงสถาน ศึกษาระดับวิทยาลัยและสถาบันเฉพาะทางในสังกัดหน่วยงานอื่น ๆ อีกเป็นจ� ำนวนมาก รูปแบบการบริหารงานมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ในช่วงเวลาก่อน พ.ศ. ๒๕๐๐ สถาบัน อุดมศึกษามีสังกัดอยู่ในกระทรวง กรม และหน่วยงานต่าง ๆ หลายหน่วยงาน ต่อมา ด้วยการตระหนักถึง ความส� ำคัญและความจ� ำเป็นที่จะต้องมีหน่วยประสานงานระดับชาติขึ้น จึงได้มีการจัดตั้งสภามหาวิทยาลัย ขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙ ให้มีหน้าที่ดูแลจัดการและควบคุมการศึกษาระดับนี้ให้มีมาตรฐานระดับเดียวกัน และให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ต่อมา หน่วยงานนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น สภาการศึกษาแห่งชาติ และเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕ ก็ได้กลายเป็นส� ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ท� ำหน้าที่วางนโยบายการศึกษาระดับชาติ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕ มีการก่อตั้งทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐขึ้น ท� ำหน้าที่เป็นเจ้าสังกัด ดูแลรับผิดชอบ มหาวิทยาลัยและสถาบันของรัฐโดยตรง ต่อมา ได้รวมมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยเอกชนด้วย จึงเปลี่ยนชื่อ เป็นทบวงมหาวิทยาลัย เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๐ การบริหารงานภายในมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งนั้น ก็มีการด� ำเนินงานภายใต้พระราชบัญญัติของ แต่ละมหาวิทยาลัย โดยมีสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี คณบดี ผู้อ� ำนวยการสถาบันหรือส� ำนักศูนย์ หัวหน้า ภาควิชา เป็นผู้บริหารงานในระดับต่าง ๆ ให้เป็นไปตามจุดมุ่งหมายและรูปแบบที่ก� ำหนดไว้ในพระราช บัญญัติการจัดระบบการศึกษาของมหาวิทยาลัยไทยโดยทั่วไป มีลักษณะเป็นรูปแบบสากลคล้ายคลึงกับ มหาวิทยาลัยในต่างประเทศ คือ การใช้ระบบปีการศึกษาเป็นแบบทวิภาค (semester) หรือไตรภาค
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=