สำนักราชบัณฑิตยสภา
ราชบัณฑิตยสภา 68 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอธิบายว่า วิธีการอบรมบ่มนิสัยของโรงเรียนเอกชนชั้นดี ของประเทศอังกฤษหรือที่เรียกว่า “ปัปลิกสกูล” (public school) ซึ่งเป็นแม่แบบของวชิราวุธวิทยาลัยนั้น เป็นผลดีแก่การปกครองแบบประชาธิปไตย พระบรมราโชวาทซึ่งพระราชทานในวันงานประจ� ำปีของวชิราวุธ วิทยาลัย เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๕ มีความตอนหนึ่งว่า อยากได้ยิน “คนฉลาด” บ่นอีกว่า “ปัญญาท่วมหัว เอาตัวไม่รอด” สิ่งที่ข้าต้องการใน โรงเรียนมหาดเล็กหลวงคือ ให้การศึกษาเป็นเครื่องท� ำให้เด็กเป็นเยาวชนที่น่ารัก และ เป็นพลเมืองดี ไม่ใช่ท� ำลายบุคลิกภาพเสียหมดโดยบรรทุกหลักสูตรและระบบการ ต่าง ๆ ลงไป ข้าต้องการให้การศึกษาเป็นสิ่งที่งดงาม จนท� ำให้เด็กที่ออกไปแล้ว หวนกลับมาคิดถึงในวันข้างหน้าด้วยความภาคภูมิใจ ขออย่าเอาโรงเรียนของข้าไป เปรียบกับโรงเรียนอื่น เพราะมีจุดหมายต่างกัน ถ้าข้าอยากจะได้โรงเรียนธรรมดาเพียง หลังหนึ่ง สร้างเป็นโรงเรียนไปมาจะไม่ดีกว่าหรือ จะสร้างโรงเรียนกินนอนขึ้นมาท� ำไม ที่ข้ากล่าวมานี้จะเข้ากันได้กับระบบการศึกษาของเจ้าหรือไม่ก็ตาม ถ้าเข้ากันได้ ข้าก็ดีใจ แต่ถ้าเข้ากันไม่ได้ ก็ขอให้วิธีการของข้าได้รับการพิจารณาด� ำเนินการโดย ยุติธรรมด้วย อย่าพยายามบังคับให้ครูของข้าท� ำตามข้อไขของเจ้า ให้ท� ำตามข้อไข ของข้าเถิด เพราะกีฬาประเภทนี้ข้าคิดให้เขาเล่น และตัวข้าเองจะเป็นผู้ให้ถ้วยรางวัล...” “...หลักที่สาม ที่ปัปลิกสกูลเขาใช้ก็คือ เขาฝึกให้นักเรียนมีน�้ ำใจเป็นนักกีฬาแท้ คือ เรียกว่าสปอร์ตสแมน การฝึกน�้ ำใจนั้นเป็นของส� ำคัญมาก ยิ่งเราจะปกครองแบบ เดโมคราซียิ่งส� ำคัญขึ้นอีก ในที่นี้จะขอหยิบยกหลัก ๒–๓ อย่างที่ว่าน�้ ำใจเป็นนักกีฬา นั้นคืออะไร ประการที่หนึ่ง นักกีฬาจะเล่นเกมอะไรก็ตามต้องเล่นให้ถูกต้องตามกฎ ข้อบังคับของเกมนั้น ไม่ใช้วิธีโกงเล้กโกงน้อยอย่างใดเลย จึงจะสนุกจึงจะเป็นประโยชน์ ประการที่สอง ถ้าเกมที่เล่นนั้นเล่นหลายคน ต้องเล่นเพื่อความชะนะของฝ่ายตน ไม่ใช่ เล่นเพื่อตัวตนเดียว ไม่ใช่เพื่อแสดงความเก่งของตัวคนเดียว ประการที่สาม นักกีฬา แท้นั้นต้องรู้จักชะนะและรู้จักแพ้ ถ้าชะนะก็ต้องไม่อวดดีท� ำภูมิ์ ถ้าแพ้ก็ต้องไม่พยาบาท ผู้ชะนะ เป็นต้น หลักสามอย่างนี้ส� ำคัญมาก ย่อมใช้เป็นประโยชน์ได้ในการเมืองด้วย
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=