สำนักราชบัณฑิตยสภา

ราชบัณฑิตยสภา 60 ดิฉันเป็นศึกษานิเทศก์ ท� ำหน้าที่พัฒนาครู ฟัง ๆ มา อาจเหมือนวาทกรรม เหมือนกับว่าเชิญครูมาอบรมและ สุดท้ายอาจไม่ลงถึงห้องเรียน พอมาเรียนพัฒนศึกษาก็ ท� ำให้คิดว่านี้อาจเป็นวาทกรรมของการพัฒนาจริง ๆ ก็ได้ ก็คือตอนที่ไปโค้ช ตอนที่เราพัฒนาครู อบรมครูเสร็จแล้ว เมื่อเราไปโค้ช และไปดูที่ชั้นเรียน ครูแทบจะไม่ได้น� ำไปใช้ ด้ วยภารกิจที่ว่ าต้ องรายงานและต้องตอบหนังสือ ต้องไปท� ำพัสดุ ท� ำให้คุณครูไม่สามารถที่จะน� ำสิ่งที่เรา หลังจากที่ติดตามความพยายามในการพัฒนาหลักสูตร ดิฉันเห็นด้วยที่จะต้องมีการพัฒนาหลักสูตร โดยเฉพาะ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็น standard based ดิฉันมองว่าตอนที่ท� ำหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรา พยายามสร้างตัวชี้วัดหรือตัวบ่งชี้ที่จะให้เด็กได้แสดง องค์ความรู้และความสามารถในการปฏิบัติงานออกมา รู้ อะไรและท� ำอะไรได้ และเราพยายามที่จะก� ำหนดมาตรฐาน การเรียนรู้ให้เด็กได้แสดงออกซึ่งศักยภาพของตัวเองให้ มากที่สุด ซึ่งก็สอดคล้องกับ competency based ทีนี้ ขอยกตัวอย่างตัวชี้วัดชั้น ม. ๓ ภาษาไทย เช่น เรื่องให้เขียน จดหมายสมัครงานโดยต้องอธิบายศักยภาพของตนเอง ที่เหมาะสมกับต� ำแหน่งงานที่จะสมัครนั้น ซึ่งก็พยายามที่ จะให้เด็กได้แสดงศักยภาพของตัวเองสูงสุดว่าจะเขียนใบสมัครงานอย่างไรให้ได้รับเข้าท� ำงาน เป็นต้น นี่คือ ตัวอย่างที่เราพยายามท� ำตัวชี้วัดออกมา ดิฉันมองว่าถ้าจะเน้นสิ่งที่เป็น competency based เช่น เรียนวิชา ประวัติศาสตร์ ถึงแม้ว่าอย่างที่ ดร.วลัย พูดว่าเนื้อเป็นเพียงสื่อ แต่สิ่งที่เราพยายามที่จะเขียนศักยภาพของเด็ก ที่ให้แสดงออกมา เช่น เราบอกว่าให้เด็กวิเคราะห์ปัจจัยที่ท� ำให้เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ นั่นคือการวิเคราะห์ ปัจจัย คือ ให้เด็กได้แสดงความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ดิฉันอยากจะขอสนับสนุนให้มีการปรับหลักสูตร แต่ว่าอยากจะให้ปรับทั้งระบบ ไม่ใช่เฉพาะชั้นประถมต้น ป.๑–๓ ควรจะดูทั้งหมดให้เป็นระบบเดียวกันและ พยายามท� ำให้เป็น competency based ให้ได้มากที่สุด แต่ขณะเดียวกันดิฉันก็คิดว่าบางตัวไม่สามารถ ที่จะท� ำให้เป็น competency based ได้ทั้งหมด แต่ดิฉันมองว่าค� ำว่า standard based ก็ครอบคลุมได้ทั้ง ส่วนที่เป็นองค์ความรู้และ competency ดิฉันอยากให้คณาจารย์ อาจารย์ที่เกี่ยวข้อง พิจารณาให้ดีว่า ถ้าปรับหลักสูตรใหม่จะคงค� ำว่า standard based ซึ่งครอบคลุมไปถึง competency เพื่อที่จะไม่สร้างความคิด ที่กระจัดกระจายออกไป ผู ช วยศาสตราจารย ดร.ดรุณี จำปาทอง ผู ร วมประชุม

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=