สำนักราชบัณฑิตยสภา

เอร็อสทรัต (Erostrate) : กรณีศึกษาตัวเอกปฏิลักษณ์ The Journal of the Royal lnstitute of Thailand Volume 36 No. 4 Oct-Dec 2011 576 เมื่อปอล อีลแบร์ ตัดสินใจแน่วแน่ ที่จะเป็นฆาตกรที่ฆ่าคนไม่เลือกหน้า เขา ก็หยุดไปท� ำงาน ปิดตนเองอยู่ในห้องพัก หรือไม่ก็ออกไปเดินตามถนน ครุ่นคิด วางแผนฆ่าคน เขาถูกไล่ออกจากงาน อย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนตุลาคม หลังจากนั้นเขาเขียนจดหมายลูกโซ่ ๑๐๒ ฉบับ มีใจความบางตอน ดังนี้ ...คุณโชคดีที่มีความรักมนุษย์อยู่ในสายเลือด...เมื่อคุณเห็นคนเหมือนคุณ ทั้ง ๆ ที่คุณไม่รู้จัก คุณก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจเขา... ผมคิดว่าคุณคงจะอยากรู้ว่าคนที่ไม่รักคนอื่นนั้นเป็นอย่างไร ก็ผมไงล่ะ ผม รักคนอื่นน้อยมากจนกระทั่งจะฆ่าพวกเขาสักครึ่งโหลเร็ว ๆ นี้ บางทีคุณอาจถามว่า ท� ำไมแค่ครึ่งโหลล่ะ ก็เพราะปืนพกของผมบรรจุกระสุนแค่ ๖ นัดน่ะซิ... ...ทุกสิ่งเกิดขึ้นราวกับว่าคุณได้รับพรจากพระผู้เป็นเจ้า แต่ผมไม่ได้รับพร นั้นเลย ...ถ้าผมไม่รักคนอื่น ๆ ก็เป็นเพราะว่าผมมันเป็นคนยากแค้น และผมไม่ สามารถมีที่รับแสงแดด พวกเขาฉกชิงความหมายของชีวิตไปจากผมจนหมดสิ้น ผมหวังว่าคุณเข้าใจว่าผมหมายถึงอะไร เป็นเวลา ๓๓ ปีแล้วที่ผมต้องเผชิญกับ ประตูที่ปิดตายซึ่งมีข้อความเขียนไว้เหนือประตูว่า “ไม่มีใครเข้าประตูนี้ได้ถ้าเขา ไม่รักเพื่อนมนุษย์”... ปอล อีลแบร์ (Sartre 2007: 90-91) ...ฆาตกรรมตัดชีวิตของฆาตกรขาดออกเป็น ๒ ส่วน มีบางขณะที่ฆาตกร อาจต้องการถอยหลังไป แต่ฆาตกรรมยังคงอยู่ที่นั่น ข้างหลังคุณ มันสกัดเส้นทาง ไว้... (Sartre 2007: 93) อีลแบร์ น� ำจดหมายทั้ง ๑๐๒ ฉบับใส่ซองปิดผนึกและจ่าหน้าซองถึง นักเขียนชาวฝรั่งเศส จากนั้นก็รวบรวม จดหมายทั้งหมดใส่ลิ้นชักโต๊ะไว้ ตลอด ๑๕ วันต่อมา เขาขังตัวเองอยู่ในห้องพัก และครุ่นคิดถึงแผนการฆ่าคน เขาสังเกต ว่าใบหน้าเขาเปลี่ยนแปลงไป นัยน์ตามี ขนาดโตขึ้นและมีสีด� ำ “เป็นนัยน์ตาอัน งดงามของศิลปินและฆาตกร” (Sartre 2007: 92) ในขณะเดียวกัน อย่างไรก็ตาม อีลแบร์ตั้งใจจะให้ดวงตาของเขาเปลี่ยน ไปอีกหลังจากเขากระท� ำการฆาตกรรม ส� ำเร็จ เขากล่าวว่าใบหน้าของคนที่มิได้ เป็นฆาตกรมักขี้เหร่เพราะแลดูเป็นมนุษย์ มากเกินไป (Sartre 2007: 93) แต่หน้า ของฆาตกรจะเปลี่ยนไปหลังการฆ่าคน อีลแบร์บรรยายว่า อีลแบร์วางแผนจะไล่ฆ่าคนตั้งแต่ ต้นถนนโอแดซา (Odessa) ลงมา ในขณะ ที่ผู้คนตระหนกตกใจและวุ่นวายอยู่กับ การเก็บศพ เขาจะถือโอกาสวิ่งหนีกลับไป ยังห้องที่เขาพักอาศัยอยู่และรอให้ต� ำรวจ แกะรอยมาพบตัวเขา ซึ่งก็คงจะใช้เวลา มากกว่า ๑ ชั่วโมง และเมื่อมีคนมาเคาะ ประตูห้อง เขาก็จะอมปืนยิงตนเอง เมื่อวันล่ าสังหารมาถึงในวันที่ ๒๗ ตุลาคม เวลา ๖ โมงเย็น อีลแบร์ หยิบปืนพกติดตัวออกจากบ้านพร้อม หยิบจดหมายลูกโซ่ที่เตรียมไว้ไปด้วย เขา

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=