สำนักราชบัณฑิตยสภา
The Journal of the Royal Institute of Thailand Vol. 37 No. 1 Jan.-Mar. 2012 ๑๕๐ ปี ทฤษฎี วิ วั ฒนาการของชาลส์ ดาร์วิ น 98 ไปของมนุษย์ด้วย ทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินมีผลต่อการพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ยุคใหม่และการไขปริศนาเกี่ยวกับความจริงของสรรพชีวิตในโลกนี้ ดังวลีของ ทีโอดอร์ ดอบซานสกี (Theodor Dobzansky) ที่กล่าวไว้ว่า “หากไม่ใช้ทฤษฎีวิวัฒนาการก็จะไม่สามารถอธิบายอะไรในสาขา ชีววิทยาได้เลย” (Nothing in biology makes sense except in the light of evolution) ประวัติชีวิตและ ผลงานของชาลส์ ดาร์วินมีความส� ำคัญต่อวงการวิทยาศาสตร์อย่างมากและพอสรุปได้ดังนี้ ชีวิตวัยเยาว์ ชาลส์ โรเบิร์ต ดาร์วิน (Charles Robert Darwin) เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ค.ศ. ๑๘๐๙ ที่เมืองโชรส์เบอรี (Shrewsbury) ในชนบทตอนกลางของประเทศอังกฤษ เขาเป็นบุตรชายคนที่ ๕ (มีพี่สาว ๓ คน พี่ชาย ๑ คน และน้องสาวคนสุดท้อง) ในครอบครัวใหญ่และมีฐานะดี มีคนรับใช้หลายคน ในบ้านหลังใหญ่ “ The Mount ” มารดา ชื่อ ซูซานนาห์ เวดจ์วูด (Susannah Wedgwood) และบิดาชื่อ โรเบิร์ต แวริง ดาร์วิน (Robert Waring Darwin) นายแพทย์ผู้มีชื่อเสียงซึ่งเป็นบุตรชายของอีราสมุส ดาร์วิน (Erasmus Darwin) ที่เป็นนายแพทย์คนส� ำคัญเช่นเดียวกัน ทั้งยังเป็นนักปรัชญาและจินตกวีที่มีชื่อ เสียงตลอดจนมีความรู้รอบด้านทั้งการประดิษฐ์คิดค้นและตั้งทฤษฎีหลายเรื่องรวมทั้งเรื่องวิวัฒนาการด้วย แต่ไม่ได้เปิดเผยแนวคิดนี้มากนักในยุคนั้น ครอบครัวของดาร์วินนับถือศาสนาคริสต์ในคริสตจักรนิกาย คริสเตียน (Church of England) อย่างเคร่งครัด ดาร์วินเป็นเด็กที่ค่อนข้างสงบเสงี่ยมเจียมตัวโดยมิได้แสดงตนว่าเป็นลูกของคนร�่ ำรวยแต่อย่างใด เขามีความสนใจอยากรู้อยากเห็นความเป็นไปในสิ่งที่ได้พบเห็นอยู่เสมอ นอกจากนี้เขายังชอบธรรมชาติ ชอบดูนก ตกปลา จับแมลง และสะสมหินแร่นานาชนิด แต่ก็ไม่ได้แสดงว่าเป็นเด็กฉลาดหรือเด็กคงแก่เรียน แต่อย่างใด พี่สาวที่ชื่อแคโรลีน (Caroline) และคนรับใช้คอยช่วยดูแลดาร์วินเป็นอย่างดีหลังจากที่มารดา ของเขาเสียชีวิตเมื่อดาร์วินมีอายุได้เพียง ๘ ปี เท่านั้น ใน ค.ศ. ๑๘๑๗ ดาร์วินเข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนโชรส์เบอรีใกล้บ้านเป็นเวลา ๑ ปีก่อนที่จะย้าย เข้าเรียนในโรงเรียนประจ� ำที่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน “The Mount” เขาเรียนอยู่ที่ใหม่นี้เป็นเวลา ๗ ปี ดาร์วิน เป็นเด็กที่ไม่ค่อยอยู่ในกฎระเบียบของโรงเรียนเท่าใดนัก เขามักหลบกลับไปบ้านหลังเลิกเรียนแล้วและ บางครั้งก็หนีเรียนเพื่อไปดูนกตกปลาและหาเก็บแมลงที่เขาชื่นชอบ ดาร์วินเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เขาได้อ่านหนังสือเรื่อง “The Natural History of Selborne” เขียนโดยบาทหลวงกิลเบิร์ต ไวต์ (Gilbert White) ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกทางด้านประวัติศาสตร์ธรรมชาติภาคสนาม (field natural history) คนหนึ่งของประเทศอังกฤษ ดาร์วินรู้สึกประทับใจในหนังสือเล่มนี้มากโดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับนก
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=