สำนักราชบัณฑิตยสภา

วัลลภ สุระก� ำพลธร วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๗ ฉบับที่ ๑ ม.ค.-มี.ค. ๒๕๕๕ 187 สัญญาณออก เป็นค่าที่สัมพันธ์กับการอินทิกรัลเวลา ( time integral ) หรือ อนุพันธ์เวลา ( time derivative ) ของค่า pH ได้ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หัวข้อการวิจัยนี้ยังเป็นเรื่องใหม่ สามารถต่อยอดไปได้อีกมาก รวม ถึงอุปกรณ์ตัวรับรู้เคมีแบบอื่นก็มีแนวโน้มที่จะน� ำมาสร้างร่วมกับวงจรรวมอีกหลายแบบ ผู้สนใจสามารถ ติดตามความก้าวหน้าจากเอกสาร[๕๖-๕๘] ได้ ๕. บทสรุป บทความนี้ได้ทบทวนถึงพัฒนาการการออกแบบวงจรสายพานกระแสรุ่นที่สองแบบใช้ดิฟแอมป์ เป็นหลัก เราได้กล่าวถึงพัฒนาการของวงจรสายพานกระแส โดยการประยุกต์ต่อยอดให้มีจุดสัญญาณ ออกแบบคู่และแบบหลายจุด ปรับปรุงพัฒนาให้เป็นวงจรแบบใหม่ โดยใช้เทคนิคการป้อนกลับต่าง ๆ เพื่อลดค่าความต้านทานจุดสัญญาณเข้าที่พอร์ต X รวมถึงการปรับปรุงให้วงจรมีความกว้างแถบความถี่ สูงขึ้นด้วย และ เพื่อให้เข้าใจถึงพัฒนาต่อยอดสมบัติของวงจร ยังได้กล่าวถึงการขยายนิยามเป็นวงจร สายพานกระแสเคมีไว้ด้วย คาดว่าการทบทวนนี้จะเป็นประโยชน์แก่นักวิจัยในสาขาการออกแบบวงจรรวม แอนะล็อกได้ไม่มากก็น้อย. (ก) พารามิเตอร์แบบไฮบริด (ข) แผนภาพบล็อกของวงจร [๕๖] รูปที่ ๗ วงจรสายพานกระแสเคมี CCCII+

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=