สำนักราชบัณฑิตยสภา
พั ฒนาการของวงจรสายพานกระแสที่ ใช้ดิ ฟแอมป์เป็นฐาน The Journal of the Royal Institute of Thailand Vol. 37 No. 1 Jan.-Mar. 2012 180 nullor ) [๓๐] ซึ่งเป็นอุปกรณ์วงจรพื้นฐานหลัก ที่ใช้ในการออกแบบวงจรแอนะล็อกโหมดกระแส และการ ดัดแปลงวงจรสายพานกระแสที่ใช้เฉพาะทรานซิสเตอร์แบบ NMOS เท่านั้น[๓๑] ๓.๑.๓ ดัดแปลงเพื่อพัฒนาเป็นวงจร CCII แบบใหม่ Surakampontorn และคณะ ได้น� ำ เสนอวงจรสายพานกระแสอีกแบบหนึ่ง ที่มีโครงสร้างง่ายและออกแบบโดยใช้วงจรสะท้อนกระแสเป็น หลักดังได้แสดงไว้ในรูปที่ ๔ (ก) [๓๒] ใน ค.ศ. ๑๙๙๒ Laopoulos และคณะ ได้เสนอการปรับปรุงวงจรรูป ๓ (ก) เพื่อให้มีค่าอัตราขยายวง ( loop gain ) สูงขึ้น เพื่อลดค่า r X วงจรสายพานกระแสตามรูปที่ ๔ (ข) นี้ M 7 และ M 8 เป็นวงจรจ่ายกระแสคงตัว 3 I B และ I B ตามล� ำดับ ดิฟแอมป์ที่ประกอบจาก M 1 ถึง M 4 เพื่อท� ำให้ V Y = V X โดยที่ M 5 ถูกต่อแบบคอมมอนซอร์ส ( common source ) ท� ำให้ I D 5 = I D 6 เพื่อลด ผลของออฟเซต ( offset ) M 6 และวงจรสะท้อนกระแส M 12 - M 13 ท� ำหน้าที่ป้อนกลับเพื่อให้พอร์ต X มีความต้านทานต�่ ำ เนื่องจาก M 9 ถึง M 11 ต่อกันเป็นวงจรสะท้อนกระแส และเมื่อร่วมกับ M 15 ท� ำให้ มีการถ่ายโอนกระแสจากพอร์ต X ไปยังพอร์ต Z ได้ดี ต่อมา Emami และคณะ ได้ปรับปรุงต่อไปโดยน� ำ เสนอวิธีการป้อนกลับแบบใหม่ เพื่อลดค่า r X ในขณะเดียวกันได้วงจรสายพานกระแส ที่มีช่วงความถี่ปฏิบัติ งานกว้างด้วย [๓๓] (ไม่ได้แสดงวงจรไว้) (ก) วงจร CCII แบบใช้วงจรสะท้อนกระแส [๓๒] (ข) CCII ของ Laopoulos และคณะ [๓๓]
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=