สำนักราชบัณฑิตยสภา
วัลลภ สุระก� ำพลธร วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๗ ฉบับที่ ๑ ม.ค.-มี.ค. ๒๕๕๕ 171 พัฒนาการของวงจรสายพานกระแสที่ใช้ดิฟแอมป์เป็นฐาน วัลลภ สุระก� ำพลธร สาขาวิชาอิเล็กทรอนิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ฃ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ถนนฉลองกรุง แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ๑๐๕๒๐ Email :kswanlop@kmitl.ac.th บทคัดย่อ บทความนี้ทบทวนพัฒนาการการออกแบบวงจรสายพานกระแสรุ่นที่ ๒ แบบใช้วงจร ขยายผลต่าง (differential amplifier) หรือ ดิฟแอมป์ เป็นหลักในการออกแบบ จากวงจรสายพาน กระแสของวงจร Surakampontorn [13] ได้แจกแจงการประยุกต์ใช้โดยดัดแปลงต่อยอดให้มีจุด สัญญาณออกแบบคู่และแบบหลายจุด รวมถึงดัดแปลงพัฒนาให้เป็นวงจรแบบใหม่ที่มีสมบัติดีขึ้น บทความยังได้กล่าวถึงวงจร CCII ที่ใช้เทคนิคการป้อนกลับเพื่อลดค่าความต้านทานจุดสัญญาณเข้า ที่พอร์ต X รวมถึงการปรับปรุงให้วงจรมีช่วงความถี่ปฏิบัติงานสูงขึ้นด้วย บทความยังได้น� ำตารางที่ เปรียบเทียบสมบัติของวงจรสายพานกระแสที่ศึกษาโดย Hassanenin [7] เพื่อให้เข้าใจถึงหลักการ พัฒนาสมบัติของวงจร นอกจากนี้บทความยังได้กล่าวถึงการขยายนิยามเป็นวงจรสายพานกระแส เคมีไว้ด้วย ค� ำส� ำคัญ : การออกแบบวงจรรวมแอนะล็อกซีมอส, วงจรสายพานกระแสรุ่นที่สอง ในวิธีการประมวลผลสัญญาณแบบเดิมนั้น สัญญาณทางธรรมชาติทั้งหลายจะถูกแปลงโดยอุปกรณ์ ที่เรียกว่า ตัวรับรู้ (sensor) ให้เป็นสัญญาณแรงดันไฟฟ้า (voltage signal) แล้วจึงผ่านการประมวลผล เช่น ขยายขนาดสัญญาณให้ใหญ่ขึ้น ลดทอนสัญญาณรบกวน ด� ำเนินกระบวนการทางคณิตศาสตร์แก่สัญญาณ หรือปรับแต่งเป็นรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งเป็นกระบวนการประมวลผลผ่านสัญญาณแรงดันไฟฟ้า เรียกรวม ๆ กัน ว่า การประมวลผลสัญญาณโหมดแรงดัน (voltage mode signal processing) การประมวลผลสัญญาณ แบบนี้เหมาะกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แหล่งจ่ายก� ำลัง (power supply) ค่าสูง เช่น มากกว่า ๕ โวลต์ขึ้น ไป เพื่อให้สัญญาณส่ายค่า (swing) ไปได้มากและมีขนาดใหญ่ได้ แต่ด้วยพัฒนาการของการออกแบบวงจร รวม (integrated circuit) ที่ท� ำให้ระบบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันมีขนาดเล็กลงไปมาก โดยเฉพาะ ระบบวงจรที่ใช้ในอุปกรณ์พกพา (portable) ทั้งหลาย อุปกรณ์เหล่านี้มักใช้แหล่งจ่ายก� ำลังต�่ ำ ใช้ก� ำลัง
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=