สำนักราชบัณฑิตยสภา

โรคมาลาเรี ยชนิ ดไวแวกซ์ The Journal of the Royal Institute of Thailand Vol. 37 No. 1 Jan.-Mar. 2012 146 Artesunate บวก amodiaquine ขนาดยาที่แนะน� ำคือ artesunate/ amodiaquine ปริมาณ ๔/๑๐ มิลลิกรัมต่อน�้ ำหนักตัว ๑ กิโลกรัมต่อวัน วันละครั้งให้เป็นเวลา ๓ วัน ปัจจุบันยาเม็ดส� ำเร็จรูปผสมหลาย ขนาด ประกอบด้วย artesunate/ amodiaquine ปริมาณ ๒๕/๖๗.๕ มิลลิกรัม, ๕๐/๑๓๕ มิลลิกรัม และ ๑๐๐/๒๗๐ มิลลิกรัม Quinine บวก clindamycin ควินินร่วมกับ clindamycin ใช้รักษาโรคมาลาเรียในไตรมาสแรกของ การตั้งครรภ์ ควินินซัลเฟต ๑๐ มิลลิกรัมของเกลือ ต่อน�้ ำหนักตัว ๑ กิโลกรัม วันละ ๓ ครั้ง ร่วมกับ clindamycin ๑๐ มิลลิกรัมของด่าง ต่อน�้ ำหนักตัว ๑ กิโลกรัม วันละ ๒ ครั้ง ให้นาน ๗ วัน ยา primaquine เพื่อก� ำจัดเชื้อมาลาเรียระยะซ่อนพัก (hypnozoite) ขนาดมาตรฐานของ primaquine คือ ๐.๒๕-๐.๕ มิลลิกรัมต่อน�้ ำหนักตัว ๑ กิโลกรัม วันละครั้ง ระยะเวลานาน ๑๔ วัน ยา primaquine นิยมให้หลังกินยาต้านมาลาเรียระยะไร้เพศครบแล้ว เพื่อ หลีกเลี่ยงปฏิกิริยายาต้านกันเอง ควรให้ยา primaquine พร้อมอาหาร และจ� ำเป็นต้องย�้ ำให้ผู้ป่วยกินยาจนครบ ๑๔ วันตามก� ำหนด ส� ำหรับการใช้ยา primaquine ในขนาดแต่ละครั้งสูงขึ้นพร้อมลดระยะเวลาการรักษา อาจท� ำให้ผู้ป่วยทานยาได้ครบดีขึ้น ๑๐ ทั้งนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาเพิ่มเติม ข้อห้ามการใช้ยา primaquine คือ หญิงตั้งครรภ์และเด็กอายุน้อยกว่า ๔ ขวบ และควรระมัดระวังในกลุ่มแม่ที่ก� ำลังให้นมบุตร prima- quine ไม่ควรให้แก่ผู้ป่วยที่มีอาการขาดเอนไซม์ G6PD อย่างรุนแรงหรือผู้ที่มีประวัติของเม็ดเลือดแดงแตก หลังรับยา ในพื้นที่ซึ่งความชุกของการขาดเอนไซม์ G6PD ค่อนข้างสูง ต้องตรวจวัดระดับเอนไซม์ G6PD เสมอก่อนการบริหารยา ส� ำหรับผู้ป่วยที่มีสายพันธุ์ขาดเอนไซม์ G6PD ไม่รุนแรงพิจารณาให้ primaquine ๐.๗๕ มิลลิกรัมต่อน�้ ำหนักตัว ๑ กิโลกรัม สัปดาห์ละครั้ง นาน ๘ สัปดาห์ พร้อมกับติดตามการเปลี่ยนแปลง ระดับฮีมาโทคริต (haematocrit) รายสัปดาห์ ควรหยุดยาหากเกิดมีอาการเม็ดเลือดแดงแตก สถานการณ์ในอนาคตส� ำหรับการรักษาโรคมาลาเรียชนิดไวแวกซ์ ปัจจุบันมีการเสนอใช้กลุ่มยาร่วม artemisinin (ACT) เป็นยาสูตรเดียวส� ำหรับรักษาโรคมาลาเรีย ทั้งชนิดไวแวกซ์และฟัลซิพารัม ในภูมิภาคที่เป็นแหล่งชุกของโรคมาลาเรียทั้ง ๒ ชนิด อาจเป็นกลยุทธ์ที่ มีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่าย ข้อมูลที่น� ำมาสนับสนุนความคิดนี้ประกอบด้วย การติดเชื้อร่วม ฟัลซิพารัมกับเชื้อไวแวกซ์หลายพื้นที่ของแหล่งชุกมาลาเรียมีอุบัติการณ์สูง การวินิจฉัยเพื่อจ� ำแนกเชื้อ มาลาเรียที่ขาดประสิทธิภาพในหลายท้องถิ่น เชื้อไวแวกซ์ในหลายพื้นที่ดื้อต่อยา primaquine ๓,๑๑,๑๒ ข้อเสนอนี้ยังไม่มีการสรุป แต่ส� ำหรับท้องถิ่นที่มีประสิทธิภาพสามารถระบุแยกวินิจฉัยเชื้อฟัลซิพารัม และเชื้อไวแวกซ์ได้อย่างถูกต้อง และไม่มีภาวะเชื้อไวแวกซ์ดื้อยา ยังคงเลือกยารักษาตามมาตรฐาน องค์การอนามัยโลก ๓

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=