สำนักราชบัณฑิตยสภา

69 โชษิ ตา มณี ใส วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๗ ฉบับที่ ๒ เม.ย.-มิ.ย. ๒๕๕๕ การมุ่งความสุขในทิพยสมบัติสอดคล้องกับคติฮินดู ไม่ใช่คติพุทธ ไตรภูมิพระร่วง กล่าวว่า ทิพยสมบัติในสวรรค์ก็ยัง “กลอกกลับอัปรา” ไม่ทรงคุณค่าเท่านิพพานสมบัติ สุนทรภู่จ� ำเป็นต้องปรับความ ตรงนี้ให้ต่างจาก มหาสุบินชาดก ซึ่งไม่ได้กล่าวถึงการบ� ำเพ็ญเพียรเพื่อไปสวรรค์ แต่ให้ด� ำรงมั่นในศีล และเลิก การบูชายัญ เนื่องจากเรื่องราวแต่แรกของ กาพย์พระไชยสุริยา ไม่ได้ปรากฏประเด็นส� ำคัญเรื่องการบูชายัญ อย่างไรก็ดี ไม่ว่า กาพย์พระไชยสุริยา จะแสดงคติฝ่ายพุทธหรือฝ่ายฮินดู แต่ยังคงมีลักษณะเป็น วรรณคดีค� ำสอน เพราะมีเนื้อหาสั่งสอนจริยธรรม ชี้ให้เห็นว่าหากผู้คนในสังคมไม่ตั้งอยู่ในธรรม ย่อมน� ำ ตนเองและบ้านเมืองไปสู่ความพินาศ กาพย์พระไชยสุริยาบางแง่มุมที่น่าพินิจ สิ่งที่น่าสนใจประการหนึ่งจากตอนที่เด่นใน กาพย์พระไชยสุริยา คือตอนที่บรรยายสภาพ “พาราสาวัตถี” ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเมืองพุทธ เพราะกล่าวถึงภิกษุสมณะ ดูเป็นสังคมที่ไม่ไกลตัวผู้แต่งผู้อ่าน ความประพฤติของข้าราชการที่ทุจริตกินสินบน และรังแกประชาชน โดยเฉพาะข้าราชการที่มีหน้าที่ตัดสิน คดีความ ท� ำให้เกิดความคิดเชื่อมโยงถึงเพลงยาวบัตรสนเท่ห์เรื่องหนึ่งซึ่งมีผู้น� ำไปปิดไว้ที่ทิมต� ำรวจ มีเนื้อหา กล่าวถึงพฤติกรรมไม่ดีไม่งามของข้าราชการผู้ใหญ่คนหนึ่งซึ่งมีชีวิตอยู่ร่วมสมัยกับวรรณคดีเรื่องนี้ นั่นคือ เพลงยาวว่าพระยามหาเทพ (ทองปาน) เจ้ากรมพระต� ำรวจในซ้าย เชื่อกันว่าผู้แต่งเพลงยาวนี้ คือ พระมหามนตรี (ทรัพย์) ซึ่งเป็นเจ้ากรมพระต� ำรวจในขวา พฤติกรรมทุจริตทารุณ กินสินบนของ พระยามหาเทพ ปรากฏในความตอนหนึ่งว่า พวกหัวไม้เหนกลัวหนังหัวพอง ยกสองมือกราบอกราบดิน ด้วยอ� ำนาจราชศักดินั้นนักหนา ถ้าเข้าคาแล้วแต่ล้วนเปนสัตย์สิ้น มีทหารชาญไชยใจทมิน ดั่งจะกินเนื้อมนุษย์สุดพิภพ ไชยภักดีว่าที่ขุนต่างใจ ทั้งนอกในไว้เวรก็เจนจบ ศรีสังหารพนักงานการจ� ำครบ แสนใจรบรับเรียกค่าฤชา เป็นไปได้ว่า ใน กาพย์พระไชยสุริยา สุนทรภู่จะน� ำเหตุการณ์ในยุคสมัยมาเสนอ โดยเฉพาะใน บทชมพรรณไม้กล่าวถึง ฝิ่น ในตอนที่ว่า “คันทรงส่งกลิ่นฝิ่นฝาง” ฝิ่นไม่เคยเป็นพรรณไม้ที่กวีผู้ใดกล่าวถึง ไว้เลย และเป็นที่ทราบว่าในสมัยรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราโชบาย ให้ก� ำจัดฝิ่น แต่พระยามหาเทพฯ ผู้นี้ติดต่อรับสินบนจีนเผียวนักค้าฝิ่นรายใหญ่ จับแล้วปล่อยหลายครั้ง แสดงให้เห็นพฤติกรรมความไม่ย� ำเกรงพระบรมเดชานุภาพของพระเจ้าอยู่หัว

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=