สำนักราชบัณฑิตยสภา

141 มาลิ ทั ต พรหมทั ตตเวที วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๗ ฉบับที่ ๒ เม.ย.-มิ.ย. ๒๕๕๕ เมื่อตั้งศาลพร้อมเครื่องบูชาดอกไม้ธูปเทียน หมาก เมี่ยง สุรา อาหารคาวหวานแล้ว นางละเวงและธิดา ก็ร� ำถวายพร้อมทั้งสาดเหล้าไปรอบข้าง เมื่อไพร่พลจุดเทียนโห่ร้องก็มีเสียงฟ้าฟาด “เป็นแสงรุ้งพลุ่งสว่างขึ้นกลางศาล เห็นพระกาฬกายแดงดังแสงครั่ง รับสังเวยเนยนมขนมปัง ทั้งหน้าหลังลักษณาเหมือนวานร” (๕๖๘) เห็นพระกาฬกายสีแดงปรากฏองค์มารับเครื่องสังเวยคือเนยนมขนมปังและรับจะดูแลเขตป่าให้แต่ต้องมี การฟ้อนร� ำและถวายเครื่องสังเวยทุกปี ตอนที่นางเสาวคนธ์ซึ่งปลอมเป็นพระอัคนีจะลาสิกขาบทตามค� ำแนะน� ำของพี่เลี้ยง “จงสึกหาลาพรตให้ปลดเปลื้อง ได้แต่งเครื่องพลีกรรมท� ำถวาย จะเชือดแพะแกะสะเดาะพระเคราะห์ร้าย ให้เคลื่อนคลายหายโศกสิ้นโรคภัย” (๑๐๓๗-๑๐๓๘) ได้มีการแต่งเครื่องพลีกรรมเชือดแพะแกะสังเวยเพื่อสะเดาะเคราะห์ด้วย ๑๐. อาหารชนป่าเถื่อน ทูตเมืองลังกาน� ำสารของนางละเวงเดินเรือไปยังเมืองละมานเพื่อ ขอให้มาช่วยรบผลึก “ฝ่ายล� ำหนึ่งถึงละมานสถานถิ่น เมืองทมิฬฟันเสี้ยมเหี้ยมหนักหนา ไม่กินข้าวชาวบุรินทร์กินแต่ปลา กินช้างม้าสารพัดสัตว์นกเนื้อ ถึงเวลาฆ่าชีวิตเอามีดเชือด แล้วคลุกเลือดด้วยสักหน่อยอร่อยเหลือ ทั้งน�้ ำส้มพรมพร่าน�้ ำปลาเจือ ล้วนเถือเนื้อดิบกินสิ้นทุกคน” (๔๓๑) ชาวเมืองละมานเป็นพวกทมิฬ ฟันเสี้ยมเหมือนมนุษย์กินคน ไม่กินข้าวกินแต่เนื้อสัตว์ตั้งแต่นก ปลาไปถึง ช้าง ม้า โดยเฉพาะเนื้อที่เชือดสด ๆ คลุกเลือด จิ้มน�้ ำส้มน�้ ำปลา ชาวเมืองวาหุโลมก็เป็นเผ่าทมิฬเช่นกันแต่แทนที่จะกินเนื้อสัตว์ใหญ่หรือสัตว์น�้ ำกลับกินแต่ สัตว์ปีก เช่น เป็ด ไก่ และนก โดยเฉพาะไข่ของมัน “นายด่านเล่าว่าเจ้าเมืองวาหุโลมราช กษัตริย์ชาติเชื้อยักษ์มักกะสัน เลี้ยงนกไก่ไว้กินสิ้นทั้งนั้น สารพันสัตว์ที่มีปีกบิน อันกุ้งปลาสาครเรียกหนอนน�้ ำ ไม่กรายกล�้ ำเกลียดคิดพินิจถวิล ทั้งสัตว์อื่นหมื่นแสนในแดนดิน ก็ไม่กินกินแต่ไข่เป็ดไก่นก” (๙๙๐)

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=