สำนักราชบัณฑิตยสภา

119 ประพิ ณ มโนมั ยวิ บูลย์ วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๗ ฉบับที่ ๒ เม.ย.-มิ.ย. ๒๕๕๕ ในคืนก่อนวันตรุษจีนนี้ ชาวจีนจะจุดดอกไม้ไฟ ประทัด เพื่อขับไล่ภูตผีปีศาจ และเพื่อสร้าง บรรยากาศที่ครึกครื้นในช่วงเวลาแห่งการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ทุกคนพากันอยู่โต้รุ่งรับปีใหม่ เมื่อเข้า สู่วันปีใหม่ ต่างก็อวยพรให้กันด้วยค� ำอวยพรว่า 恭贺新禧 gōnghè xīnxǐ ขออวยพรให้สุขสวัสดีปีใหม่ ในหมู่ชาวจีนที่เป็นพ่อค้านักธุรกิจมักอวยพรปีใหม่กันโดยกล่าวว่า 恭喜发财 gōngxǐ fācái ขอให้ร�่ ำรวยขึ้น เพื่อให้ท� ำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง ร�่ ำรวยยิ่ง ๆ ขึ้น บางครั้งก็กล่าวอวยพรให้ยาวขึ้นว่า 新正如意, 新年发财 xīnzhèng rúyì , xīnnián fācái (ซิงเจียหยู่อี่ ซิงนี้ฮวกไช้ - ส� ำเนียง จีนแต้จิ๋ว) = ปีใหม่ขอให้สมปรารถนา ให้ร�่ ำรวยยิ่งขึ้นตลอดปีใหม่ เช้าวันตรุษจีน ทุกคนจะสวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ไปสวัสดีปีใหม่ญาติพี่น้อง ไปไหว้เจ้า ไปเดินเที่ยว ตามถนนหนทางคึกคักไปด้วยผู้คนที่ออกมาเฉลิมฉลองตรุษจีน มีการจุดประทัด เชิดสิงโต สิงโตตามคติจีน เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล การเชิดสิงโตจึงคู่กับการฉลองตรุษจีนมาแต่โบราณ ตามประเพณีจีน ผู้น้อยต้องไป 拜年 bàinián = อวยพรตรุษจีนญาติผู้ใหญ่ โดยน� ำส้ม ๔ ผล ห่อผ้าแดงหรือใส่ในถุงแดงไปด้วย ชาวจีนถือว่า ส้มเป็นผลไม้มงคล เพราะค� ำว่า ส้ม 桔 jú ออกเสียง ใกล้กับค� ำว่า 吉 jí ที่แปลว่า สิริมงคล โชคดี มีมงคล เจ้าบ้านเมื่อรับส้มแล้ว จะหยิบไว้ ๒ ลูก และน� ำส้ม ในบ้านใส่กลับไป ๒ ลูก แล้วมอบคืนพร้อมกล่าวอวยพรผู้มาเยือน เป็นความหมายอุปมาว่า ไม่เก็บความ เป็นสิริมงคลและความโชคดีไว้ทั้งหมด แต่มอบคืนกึ่งหนึ่งให้ผู้ที่น� ำมาพร้อมกับมอบความเป็นสิริมงคล และความโชคดีเพิ่มไปให้ในขณะเดียวกัน ในวันตรุษจีน ทุกบ้านจะเตรียมพวกขนมหวาน ๆ ไว้รับแขก สมัยก่อนมักเป็นพุทราแดง ส้ม น�้ ำตาลกรวด ถั่วลิสงเคลือบน�้ ำตาล ฟักเชื่อม และเม็ดแตงโมแดง หากเตรียมของขบเคี้ยวเหล่านี้ไว้ ๔ อย่าง ก็เรียกว่า 四甜 sìtián = ของหวาน ๔ อย่าง หากเตรียมไว้ทั้ง ๖ อย่าง ก็เรียกว่า 六甜 liùtián = ของหวาน ๖ อย่าง (Dengfu Chubanshe Bianjibu 2000 : 13) แต่ปัจจุบันวิถีการด� ำเนินชีวิต เปลี่ยนไป จึงมักเตรียมแบบเรียบง่าย โดยจัดเตรียมเป็นลูกกวาดหรือทอฟฟี่ นอกจากนี้ แต่ละบ้านจะตกแต่ง ห้องต่าง ๆ ในบ้านด้วยดอกไม้เพื่อให้มีบรรยากาศที่สดชื่นเบิกบาน ดอกไม้ที่นิยมมักเป็นไม้ดอกที่มีชื่อ เป็นสิริมงคล เป็นสัญลักษณ์ของความร�่ ำรวย โชคดี ความมีอายุยืน เช่น ดอกเบญจมาศ 菊花 júhuā ดอกเหมย 梅花 méihuā ดอกเบญจมาศของจีนจะบานสะพรั่งแลดูงามมากในช่วงต้นฤดูหนาว ต่อปลายฤดูใบไม้ร่วง ดอกมีขนาดใหญ่ มีสีสันสดใสทั้งสีเหลือง สีแดง สีบานเย็น สีม่วง สีขาว และสีประสม เป็นดอกไม้มงคลของจีน และเนื่องจากเป็นดอกไม้ที่แม้อากาศจะหนาวเหน็บมีหิมะขาวโพลนก็ยังบาน สะพรั่งได้ในฤดูหนาว ดอกเบญจมาศจึงเป็นสัญลักษณ์ของความอดทน เด็ดเดี่ยว สูงส่ง และความมีอายุยืน ส่วนดอกเหมยนั้นเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิ เพราะเป็นดอกไม้ที่ผลิบานงามสะพรั่งช่วงปลาย ฤดูหนาวต่อต้นฤดูใบไม้ผลิ ชาวจีนจึงถือว่าเป็นไม้ดอกที่บอกการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ มีหลากหลายสี

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=