สำนักราชบัณฑิตยสภา

169 ชาย โพธิสิ ตา วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๗ ฉบับที่ ๔ ต.ค.-ธ.ค. ๒๕๕๕ ผลิตมันส� ำปะหลัง อ้อย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน�้ ำมัน แม้ข้าวซึ่งเป็นพืชอาหารหลัก เกษตรกรจ� ำนวนมาก ก็ปลูกเพื่อขายมากกว่าปลูกแต่พอกินในครัวเรือน จะเห็นได้เช่น ในฤดูเก็บเกี่ยวชาวนาส่วนใหญ่นิยมที่จะ ขายข้าวเปลือกทันทีที่เก็บเกี่ยวเสร็จ โดยไม่เก็บส่วนหนึ่งไว้บริโภคในครัวเรือน ข้าวที่บริโภคในครัวเรือนนั้น พอใจที่จะซื้อจากตลาดมากกว่า พฤติกรรมเช่นนี้เห็นได้ชัดในปีที่ข้าวราคาดีเป็นพิเศษ จริงอยู่ การรีบขาย ผลผลิตนั้นอาจจะมีสาเหตุมาจากความต้องการเงิน (เพื่อมาใช้หนี้ หรือเพื่อใช้จ่ายอย่างอื่น) แต่ถึงกระนั้น ก็ยังชี้ให้เห็นว่าตลาดและเงินมีความส� ำคัญมากเพียงใดในวิถีชีวิตเกษตรกรปัจจุบัน แนวโน้มในชนบททุกวันนี้คือ ครัวเรือนเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่ได้ผลิตสิ่งที่ตัวเองต้องกินต้องใช้ และไม่ได้กินไม่ได้ใช้สิ่งที่ตัวเองผลิตเป็นหลักอีกต่อไป ทั้งนี้เพราะตลาดเข้ามามีบทบาทส� ำคัญ ความถดถอยของเกษตรเพื่อกินเพื่อใช้นั้นสะท้อนให้เห็นได้บางส่วนในตัวเลขจากการส� ำรวจของ กรมเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่พบว่า ครัวเรือนเกษตรกรทั่วประเทศที่ใช้ผลผลิต ในไร่นาเพื่อการบริโภคในครัวเรือนเป็นหลักมีประมาณร้อยละ ๓๐ เท่านั้น (ตารางที่ ๑) นั่นหมายความว่า ไม่น้อยกว่า ๒ ใน ๓ ของครัวเรือนทั้งหมดอาศัยตลาดเป็นที่มาของอาหาร ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะการผลิตของ เกษตรกรทุกวันนี้ไม่ได้มุ่งเพื่อการบริโภคในครัวเรือนเป็นส� ำคัญ และตลาดมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจ� ำ วันของครัวเรือน นี่คือลักษณะส� ำคัญของวิถีทุนนิยม ตารางที่ ๑ ร้อยละของครัวเรือนที่ใช้ผลผลิตในไร่นาเพื่อบริโภคในครัวเรือนเป็นหลัก ปีเพาะปลูก ๒๕๔๔- ๒๕๔๕ ภาค ร้อยละ อีสาน ๓๗.๒ เหนือ ๒๓.๒ กลาง ๓๙.๘ ใต้ ๖.๔ ทั่วประเทศ ๒๙.๗ ที่มา ชื่นฤทัย กาญจนะจิตรา และคณะ, ๒๕๕๕ ๒. รูปแบบการผลิตมีแนวโน้มเป็นเกษตรเชิงเดี่ยว เกษตรเชิงเดี่ยวคือการที่เกษตรกรมุ่งผลิต พืชหรือสัตว์ชนิดเดียว โดยเลือกผลิตชนิดที่ตลาดมีความต้องการเป็นส� ำคัญดังกล่าวแล้วข้างต้น และผลิต จ� ำนวนมาก ๆ เช่น ปลูกมันส� ำปะหลัง อ้อย ปาล์มน�้ ำมัน ยางพารา เลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงสุกร ในระบบเกษตร ทุนนิยมเช่นนี้ ตลาดทั้งในและนอกประเทศเป็นตัวก� ำหนดที่ส� ำคัญของการผลิต ไม่ใช่ความต้องการบริโภค ในครัวเรือน เช่น ผลิตมันส� ำปะหลังเพื่อสนองความต้องการของตลาดในยุโรป ดังนั้น สิ่งที่ผลิตจึงไม่จ� ำเป็น

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=