ปีที่ ๓๘ ฉบับที่ ๒ เมษายน-มิถุนายน ๒๕๕๖

ลิขิต ธีรเวคิน 27 วารสารราชบัณฑิตยสถาน ป ที่ ๓๘ ฉบับที่ ๒ เม . ย .- มิ . ย . ๒๕๕๖ แต สังคมดังกล าวนี้ก็แปรเปลี่ยนไปสู สังคมยุคที่ ๒ คือ สังคมทาส (slavery) โดยสังคมทาส นี้ เกิดจากการที่ผู แข็งแรงหรือกลุ มที่แข็งแรงใช กําลังอาวุธเข ายึดอํานาจในการจัดการสังคม ด วยการ จัดระเบียบต าง ๆ จัดการแบ งสรรทรัพยากร เกณฑ คนเข ามาใช แรงงานตามที่ตนต องการ รวมทั้ง การใช คนทํางานต างสัตว ทําให มีระบบทาสเกิดขึ้น การใช อํานาจดังกล าวนําไปสู การเกิดรัฐ (state) และ ผู ใช อํานาจรัฐ อันได แก คนที่แข็งแรงนั้น ก็คือกลุ มคนที่เรียกว า รัฐบาล ในสังคมเช นนี้ จะเริ่มมีระบบ การปกครองซึ่งมักเป นระบบการปกครองแบบใช อํานาจเป นหลักหรือเผด็จการ อันเป นสังคมที่เกิดขึ้น ในสังคมเกษตร และแม จะใช อํานาจรัฐและสามารถควบคุมได ในระดับหนึ่ง แต ผลสุดท ายก็จะเกิดความ ขัดแย งตามลักษณะของวิภาษวิธีของสังคม อันจะนําไปสู การแตกสลายของสังคมทาส เริ่มจากการล มสลาย ของจักรวรรดิโรมันนําไปสู สังคมฟ วดัล (feudal) ซึ่งเป นสังคมที่แบ งเป นแคว นเล็ก ๆ ไม มีอํานาจศูนย กลาง โดยแต ละแคว นก็มีการปกครองโดยใช กองกําลังทหารในการควบคุมความสงบเรียบร อย การบริหาร การจัดการทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการผลิตในอุตสาหกรรมพื้นฐานและสังคมเกษตร มีทาสติดดิน ใครครองที่ดินก็จะได ทาสอันเป นแรงงานสําคัญไปด วย สังคมฟ วดัลต างจากสังคมศักดินาของประเทศไทย ในสังคมศักดินามีการคุมคนมากกว า การคุมที่ดิน และมีอํานาจศูนย กลางอยู ที่กษัตริย ไม ใช เป นระบบแคว น และการวิภาษวิธีของคาร ล มากซ สังคมฟ วดัลหรือสังคมแคว นมีการเข นเขี้ยวระหว างกันและมีการเปลี่ยนแปลงในทางความคิด วิทยาศาสตร และเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย างยิ่งในแง ความคิดนั้นเจริญเติบโตขึ้นในสังคมต อสังคม แคว น เนื่องจากการเสื่อมอํานาจของผู นําทางศาสนาในสังคมตะวันตก สังคมแคว นหรือฟ วดัลจึงนําไปสู สังคมทุนนิยม (capitalism) มีการผลิตสินค าเครื่องใช เป นจํานวนมากจนนําไปสู การเกิดอุตสาหกรรม เกิดเศรษฐกิจเงินตรา และเกิดเศรษฐกิจตลาด ที่สําคัญที่สุดคือ มีการปฏิวัติอุตสาหกรรมจากการค นพบ ทางวิทยาศาสตร เทคโนโลยีโดยมีเครื่องจักรไอนํ้า แต ในสังคมแบบทุนนิยม แม จะมีระบบการปกครองที่เป ดกว างขึ้นเพราะเป นสังคมอุตสาหกรรม แต ก็มีการเอารัดเอาเปรียบจากผู กุมอํานาจ โดยเปลี่ยนจากผู กุมอํานาจทางการเมืองในสังคมทาสและ สังคมแคว นแบบฟ วดัลมาเป นผู กุมอํานาจทางเศรษฐกิจ เจ าของโรงงานที่เรียกว า เจ าของป จจัยการผลิต จะเอารัดเอาเปรียบผู ใช แรงงานอุตสาหกรรมจํานวนมากที่เรียกว า ชนชั้นกรรมาชีพ (the proletariat) ที่ย ายจากสังคมเกษตรมาสู สังคมเมืองอุตสาหกรรม จนเกิดเป นชุมชนเมืองขึ้น ความขัดแย งที่เกิดขึ้น ในลักษณะวิภาษวิธีก็คือ ความขัดแย งระหว างนายทุนผู เป นเจ าของป จจัยการผลิตกับชนชั้นกรรมาชีพ หรือกรรมกรในเรื่องค าจ างแรงงาน คาร ล มากซ ได ประกาศให ชนชั้นกรรมาชีพลุกฮือขึ้นต อสู เพื่อ ปลดแอกตนเองจากพันธนาการของชนชั้นนายทุน และผลสุดท ายสังคมก็จะกลายเป นสังคมสุดท ายของ 23-49 Mac9.indd 27 10/8/13 7:12 PM

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=