ปีที่ ๓๘ ฉบับที่ ๒ เมษายน-มิถุนายน ๒๕๕๖

บรรจบ บรรณรุจิ 147 วารสารราชบัณฑิตยสถาน ป ที่ ๓๘ ฉบับที่ ๒ เม . ย .- มิ . ย . ๒๕๕๖ ๑๐ . สยนทสกะ วัยนอน ๑๐ ป เริ่มตั้งแต อายุ ๙๑ ป จนถึงอายุครบ ๑๐๐ ป วัยนี้ร างกาย เคลื่อนไหวลําบากแล วเพราะธาตุ ๔ ที่ประชุมกันเป นร างกายหมดสภาพพร อมแตกสลาย ต องนอน รอความตาย ๒๘ การแบ งดังกล าวมาอาจจะไม ถูกต องทีเดียวนัก โดยเฉพาะตั้งแต ข อที่ ๖ . ถึงข อที่ ๑๐ . เพราะส วนใหญ จะอยู ไม ครบอายุขัย บางท านอาจจะนอนตั้งแต อายุ ๙๐ ป แล ว ในทางตรงกันข าม บางท านก็อาจจะยังไม เป นอย างว ามา แม จะมีอายุตั้ง ๘๐ - ๙๐ ป แล ว แต ก็ยังเคลื่อนไหวอิริยาบถได เป นปรกติ สามารถช วยตัวเองได แม จะไม แข็งแรงเหมือนเมื่อก อนก็ตาม แต นั่นก็เป นส วนบุคคล ส วนใหญ แล วจะตกอยู ในสภาพดังกล าวมา การรู อย างนี้จะทําให เกิดประโยชน ในการพัฒนาตนเอง และการดูแลสุขภาพ ซึ่งสังคมป จจุบันกําลังตื่นตัว บทสรุป พระพุทธศาสนามองกาลเวลาว าสัมพันธ อยู กับสิ่งที่ป จจัยปรุงแต งทั้งหมดไม ว าสิ่งที่ถูกปรุงแต ง นั้นจะเป นอะไร เล็กหรือใหญ สวยงามหรือไม สวยงาม มีค าน อยหรือมีค ามาก เป นของมนุษย หรือของ เทวดา ความสัมพันธ เริ่มตั้งแต สิ่งที่ถูกปรุงแต งนั้นเกิดขึ้นมา แต อาจยังไม ชัด จะชัดก็ต อเมื่อสิ่งที่ถูกปรุงแต ง นั้นมีความแก ความเสื่อมสลาย และความแตกดับปรากฏ ซึ่งแสดงว าได เกิดและดํารงอยู มานาน กาลเวลายังถูกใช ไปในการกําหนดขอบเขตการดํารงอยู ของสิ่งที่ถูกป จจัยปรุงแต งให ออกมาในรูปของ เท านั้น ขณะเท านั้น วินาทีเท านั้น นาทีเท านั้น วันเท านั้น เดือนเท านั้น และป เท านั้น โดยมีคืนและวัน เป นกรอบใหญ สิ่งที่ถูกป จจัยปรุงแต งครอบคลุมถึงสรรพสัตว และสรรพสิ่ง กาลเวลาไม มีรูปร างตัวตน แต เมื่อถูกมองว ากินสรรพสัตว และสรรพสิ่งได จึงถูกสร างให เป นรูปธรรม มีตัวตนอย างที่พบในคติ ความเชื่อของศาสนาฮินดู แต พระพุทธศาสนาก็อธิบายได ชัดเจนว ากาลเวลาที่ไม มีตัวตนแต กินสรรพสัตว และสรรพสิ่งด วยการปล อยให ทั้งสรรพสัตว และสรรพสิ่งค อย ๆ เสื่อมสลายไปและแตกดับไปในที่สุด หลังจากสรรพสัตว และสรรพสิ่งแตกดับแล ว กาลเวลาก็ยังดําเนินและสัมพันธ กับสิ่งที่ถูกป จจัย ปรุงแต งใหม ๆ ต อไปไม รู จบ โลกนี้จึงยังมีขณะ วินาที นาที ตลอดไปถึง วัน เดือน ป ไม มีที่สิ้นสุด สรรพสัตว และสรรพสิ่งเมื่อเกิดมาในโลกนี้ก็เป นที่รู กันว าย อมพบกับความสิ้นสุดตามกาลเวลา เพราะ การเกิดทําให ตกอยู ในกรอบของกาลเวลา ดังนั้น กาลเวลาจึงเป นตัวกําหนดลักษณะของสิ่งที่ถูก ป จจัยปรุงแต งทั้งหมด ในพระพุทธศาสนา มีคําสอนที่พระพุทธเจ าตรัสไว เองว า อกาลิโก อันเป นคุณศัพท บทหนึ่งของคําว า ธัมโม แปลว า ธรรมหรือความจริงที่ไม ประกอบด วยกาลเวลา ๒๙ ๒๘ วิสุทฺธ . ๓ / ๒๔๗ . ๒๙ สํ . นิ . ๑๖ / ๔๑ / ๖๗ . 134-151 Mac9.indd 147 10/8/13 7:23 PM

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=