สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

อคติ การกีดกั น และความสั มพั นธ์ของมนุษย์ 56 The Journal of the Royal Institute of Thailand Vol. 38 No. 4 Oct-Dec 2013 สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดน่าจะเป็นการใช้ศาสนาเป็นข้ออ้างกระท� ำความรุนแรงฆ่าคนบริสุทธิ์ของพวกผู้ก่อ การร้ายชาวมุสลิม ค� ำสอนของศาสนาอิสลามมิได้สอนให้ฆ่าคนบริสุทธิ์ได้ แต่ผู้ก่อการร้ายสามารถบิดเบือน ค� ำสอนสร้างมโนทัศน์เรื่องจิฮัดใหม่ กระท� ำการฆ่าตัวตายโดยฆ่าผู้บริสุทธิ์ด้วย โดยอ้างว่าเพื่อสนอง พระเป็นเจ้า ไม่มีค� ำสอนบอกว่าการฆ่าคนสนองพระเป็นเจ้าพระอัลลอฮ์ แต่พวกผู้ก่อการร้ายสามารถ ล้างสมองท� ำให้คนหนุ่มคนสาวยอมฆ่าตัวตายและฆ่าคนเป็นจ� ำนวนมากเพื่อได้บุญไปพบพระเป็นเจ้า ซึ่ง ปัจจุบันนี้เป็นปัญหาส� ำหรับอารยประเทศทั้งหลาย รวมทั้งประเทศไทย การสอนให้ก่อการร้ายเป็นการ ท� ำลายโอกาสของการอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์และสงบสุข เหตุการณ์เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ค.ศ. ๒๐๐๘ ที่มุมไบ ประเทศอินเดีย เป็นเหตุการณ์ล่าสุดที่ผู้ก่อการร้ายฆ่าคนจ� ำนวนมาก และผู้กระท� ำ เป็นชาวมุสลิมเชื่อมกับปากีสถาน มีข่าวว่ากองทัพปากีสถานเคยสนับสนุนพวกก่อการร้ายหัวรุนแรง อยู่ กระบวนการก่อการร้ายของชาวมุสลิมเป็นตัวอย่างของการบิดเบือนค� ำสอนทางศาสนา เพื่อสนอง เป้าหมายของกระบวนการซึ่งต่อต้านสังคมทั้งตะวันตกและตะวันออก พวกที่กระท� ำการมักเป็นพวก fundamentalists ซึ่ง fundamentalist ของศาสนาคริสต์ก็เป็นพวกมีอคติต่อชนกลุ่มน้อย การเข้าถึง ศาสนาเพียงส่วนเดียวและบิดเบือนค� ำสอนจึงมีทั้งในศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม และศาสนาพุทธ ความเชื่อในหลัก just world ทุกคนสมควรได้รับสิ่งที่ควรได้อยู่แล้ว คนพิการเพราะมีกรรม เก่า คนด้อยโอกาสเพราะเป็นเอง พระเป็นเจ้าท� ำโทษคนท� ำความผิด และสร้างโลกเท่าที่เป็นอยู่ ส� ำหรับ พวกก่อการร้ายหัวรุนแรงก็เชื่อว่าสังคมเช่นสหรัฐอเมริกาหรืออินเดียสมควรถูกท� ำโทษ เพราะท� ำไม่ดีกับ ชาวมุสลิมเสมอเหมือนการก่อการร้ายเป็นการสนองกรรมที่ก่อ ทั้ง ๆ ที่การก่อการร้ายฆ่าคนบริสุทธิ์เป็น จ� ำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นที่บาหลี นิวยอร์ก มุมไบ อังกฤษ หรือสเปน คนที่ตายก็เป็นคนบริสุทธิ์ทั้งสิ้น เป็นครั้งแรกที่ประวัติศาสตร์ของอารยธรรมสมัยใหม่มนุษย์ที่มีกระบวนการฆ่าตัวตายและฆ่าคนบริสุทธิ์ เพื่อสนองพระเจ้าตามการตีความที่บิดเบือนค� ำสอนเพื่อเป้าหมายของพวกตน ช่วงหลังของปี ๒๐๐๘ เป็นช่วงเศรษฐกิจโลกก� ำลังมีวิกฤตตกต�่ ำอย่างหนัก เราได้กล่าวมาแล้ว ว่าในยามที่เศรษฐกิจตกต�่ ำ อคติและการท� ำร้ายกันจะมีมากขึ้น ดังนั้น ผู้คนในสังคมต่าง ๆ ควรตั้งสติให้ดี พยายามเข้าถึงหลักธรรมที่แท้จริงของศาสนาซึ่งสอนให้มนุษย์รักกัน เอื้ออาทรต่อกัน อย่าปล่อยให้ปัญหา ทางเศรษฐกิจลดความเป็นสัตว์ประเสริฐของเรา อคติสร้างปัญหาให้โลกมากมาย เมื่อถึงช่วงมี realistic conflict เช่น แย่งผลประโยชน์ แย่งทรัพยากรซึ่งมีน้อย เราควรตั้งสติให้ดี ใช้ชีวิตแบบพอเพียง และ แบ่งปันผลประโยชน์ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้ก็ช่วย ท� ำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นเมื่อมีการแบ่งปัน มีการเอื้ออาทร ต่อกัน ดังเช่นในศาสนาคริสต์สอนว่าทุกคนเป็นลูกพระเป็นเจ้า จึงควรได้รับการคุ้มครองเท่า ๆ กัน ไม่มี ศาสนาไหนดีกว่าศาสนาไหน ทุกศาสนาสอนให้คนท� ำความดี เป็นที่พึ่งของจิตวิญญาณมนุษย์ทั้งสิ้น เราไม่ควรอาศัยช่องว่างของค� ำสอนและใช้ศาสนาเป็นข้ออ้างสนองผลประโยชน์และเป้าหมายส่วนตน