สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

167 มาลิ ทั ต พรหมทั ตตเวที วารสารราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๓๘ ฉบับที่ ๔ ต.ค.-ธ.ค. ๒๕๕๖ ๑๕. Lorelei (ลอเรอะไล) เป็นนางพรายรูปร่างหน้าตางดงาม สิงสู่อยู่ที่บนผาสูงในแม่น�้ ำไรน์ ประเทศเยอรมนี เมื่อมีชาวเรือล่องเรือผ่านช่องแคบมาจะเห็นลอเรอะไลนั่งอยู่บนยอดผา มือถือกระจกเงา และหวีผมยาวสีทองของนางด้วยหวีทองค� ำ ตาของลอเรอะไลเป็นสีเขียวมรกต ปากสีแดงแย้มยิ้มและ วงแขนอ้ารับเชิญชวนให้เข้าไปใกล้ เสียงเพลงอันไพเราะของนางจับใจผู้ฟัง เมื่อชาวเรือล่องเรือเข้าไปใกล้ เรือจะกระแทกโขดหินอับปางท� ำให้คนเหล่านั้นจมน�้ ำตาย ลอเรอะไลรูปร่างคล้ายกับนางเงือกแต่มีขา เหมือนคนไม่ใช่หางปลา กวีผู้มีชื่อเสียงโด่งดังชาวเยอรมันเชื้อสายยิวคือ Heinrich Heine (ไฮน์ริช ไฮเนอ) ได้น� ำเรื่องของนางไปแต่งเป็นบทกวี ๑๖. Mermaids/Mermen (เงือก) คืออมนุษย์ที่ตัวเป็นคนแต่หางเป็นปลา มีทั้งเพศหญิง และเพศชาย พวก Nereids (นีรีดส์) ธิดา ๕๐ นางของ Nereus (นีรุส) และ Oceanids (โอซีอานิดส์) ธิดา ๓,๐๐๐ นางของ Oceanus (โอซีอานุส) ก็จัดเป็นนางเงือกเช่นกัน ในแถบทะเลของไอร์แลนด์เรียก นางเงือกว่า Merrow (แมโรว์) ซึ่งจะสวมหมวกแก๊ปสีแดงหรือเสื้อคลุมหนังแมวน�้ ำที่ท� ำให้ว่ายน�้ ำได้ ไกล ๆ เมื่อขึ้นฝั่งถอดหมวกหรือเสื้อคลุมออกก็จะกลายเป็นมนุษย์ แมโรว์สามารถมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว กับมนุษย์และมีลูกด้วยกันได้ มีครอบครัวในไอร์แลนด์บางครอบครัวที่เชื่อว่าตระกูลของตนสืบเชื้อสายมา จากแมโรว์ เช่น ตระกูล O’Flaherty และ O’Sullivan แห่ง Kerry กับตระกูล MacNamara แห่ง Clare นางเงือกที่มีชื่อเสียงคือนางเงือกน้อยในเรื่อง The Little Mermaid ซึ่งแต่งโดยนักประพันธ์ชาวเดนมาร์ก Hans Christian Andersen (ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซ็น) และ Ariel (แอเรียล) นางเงือกในบทละคร เรื่อง The Tempest ของเชกสเปียร์ ๑๗. Minotaur (มิโนทอร์) เป็นอสุรกายครึ่งคนครึ่งวัว กษัตริย์ Minos (ไมนอส) แห่งครีทได้ รับวัวเผือกจากเทพโพไซดอนให้น� ำไปบูชายัญสังเวยแก่พระองค์ แต่ไมนอสกลับเก็บวัวไว้เอง โพไซดอน โกรธมาก จึงบันดาลให้นาง Pasiphae (พาซิฟี) มเหสีของไมนอสไปมีความสัมพันธ์กับวัวเผือก ลูกที่เกิด มาคือมิโนทอร์จึงมีหัวเป็นวัว ตัวเป็นคน ไมนอสอับอายจึงสั่งให้ Daedalus (ดีดาลุส) ช่างฝีมือชื่อดังสร้าง labyrinth (แล็บบะรินท์) คือเขาวงกตขึ้นมาเพื่อขังมิโนทอร์ไม่ให้ใครพบเห็น ทุกปีชาวเมืองเอเธนส์จะต้อง ส่งเด็กหนุ่มเด็กสาวเพศละ ๗ คนมาสังเวยให้เป็นอาหารของมิโนทอร์ ผู้ที่ฆ่ามิโนทอร์ได้คือ Theseus (ทีซุส) โอรสของกษัตริย์แห่งเอเธนส์ ด้วยความช่วยเหลือของนาง Ariadne (อริอัดนี) ธิดาของไมนอส ๑๘. Pegasus (เพ็กกะซุส) ม้ามีปีกซึ่งเกิดจากเลือดของมีดูซาตอนที่นางถูกเพอร์ซุสตัดหัว มีความว่องไวมาก เพ็กกะซุสได้บินไปที่เขา Helicon (เฮลิคอน) ที่ตั้งของวิหารของ Musae (มูซี) หรือ The Muses ซึ่งเป็นเทพีแห่งศิลปวิทยา ๙ นางของกรีก เมื่อเพ็กกะซุสใช้เท้ากระทืบพื้นดินท� ำให้เกิดน�้ ำพุ Hippocrene (ฮิปโพครีนี) พุ่งขึ้นมา น�้ ำพุนี้ถือเป็นที่มาของแรงบันดาลใจด้านกวีนิพนธ์ เบลเลโรฟอนจับ เพ็กกะซุสได้โดยใช้สายบังเหียนทองค� ำของเทพีอทีนาและขี่มันไปปราบตัวไคมีรา หลังจากฆ่าไคมีราแล้ว เบลเลโรฟอนพยายามจะขี่ม้าเพ็กกะซุสขึ้นไปบนวิมานโอลิมปุส จึงถูกม้าสลัดตกลงไปกลายเป็นคนพิการ

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=