สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

สั ตว์ประหลาดและอมนุษย์ในต� ำนานและวรรณกรรมตะวั นตก 164 The Journal of the Royal Institute of Thailand Vol. 38 No. 4 Oct-Dec 2013 เฝ้าล� ำธารที่มีทองค� ำอยู่ทางทิศเหนือ เพื่อนบ้านของกริฟฟินซ์คือ พวก Arimaspi (อาริมัสปิ) ซึ่งมีตา ข้างเดียว เป็นชนเผ่าเลี้ยงม้าที่พยายามจะขโมยทองค� ำนี้เสมอ ๑๒. Harpies (ฮาร์ปีซ) อสุรกายมีปีกเหล่านี้เป็นธิดาของโพไซดอนกับจีอา ดุร้ายและสกปรก หน้าเป็นผู้หญิง ตัวเป็นนกแร้ง มีกรงเล็บแหลมคม ไปที่ไหนก็ทิ้งกลิ่นเหม็นเน่าไว้ ถ้าไปเกาะที่อาหารของ เหยื่อก็จะท� ำให้อาหารนั้นกินไม่ได้ ท� ำหน้าที่น� ำวิญญาณผู้ตายไปจากร่าง เป็นตัวแทนของเทพเจ้าในการ ลงโทษผู้ท� ำผิดและผู้ลบหลู่ดูหมิ่นเทพเจ้า Phineus (ฟีนีอุส) เคยท� ำให้ลูก ๆ ของตนตาบอด จึงถูกเทพเจ้า ลงโทษให้ตาบอดเสียเอง และเทพีฮีราก็ส่งฮาร์ปีส์ให้ไปท� ำให้อาหารของฟีนีอุสเน่าเหม็นกินไม่ได้เพื่อเป็นการ ทรมาน ภายหลังฟีนีอุสได้ช่วยบอกวิธีให้เจสันกับพวก Argonauts (อาร์โกนอตส์) คือลูกเรือที่เดินทางโดย เรือ Argo (อาร์โก) ไปแสวงหาขนแกะทองค� ำแล่นเรือผ่านหินกระทบไปได้ เทพเจ้าจึงบันดาลให้เขากลับ มองเห็นดังเดิม ๑๓. Hydra (ไฮดรา) ตัวไฮดราแห่งเมือง Lerna (เลอร์นา) ซึ่งเป็นบุตรของไทฟอนกับ นางเอคิดนา เป็นสัตว์ประหลาดมีหัวเป็นงู ๙ หัวแต่ตัวเป็นสุนัข หัวหนึ่งนั้นเป็นอมตะ ฮีราเลี้ยงมันไว้เพื่อ ให้ท� ำลายเฮราคลีซ ภารกิจที่ ๒ ของเฮราคลีซก็คือการฆ่าไฮดราแห่งเลอร์นาโดยมี Iolaus (อิโอลาอุส) ผู้เป็นหลานชายท� ำหน้าที่เป็นสารถีและผู้ช่วยของเขา เมื่อเฮราคลีซตัดหัวไฮดราออกหัวหนึ่งจะมีหัวงอก ออกมาใหม่ ๒ หัวในที่เดิม อิโอลาอุสจึงใช้ไฟจี้ที่แผลทันทีที่หัวไฮดราถูกตัดออกไป หัวจึงไม่งอกออกมาใหม่ ด้วยวิธีนี้ เฮราคลีซจึงสามารถฆ่าไฮดราได้ ส่วนหัวที่เป็นอมตะนั้นเฮราคลีซเอาไปฝังไว้ใต้ก้อนหิน เขา เอาลูกธนูไปจุ่มในเลือดไฮดราท� ำให้ลูกธนูมีพิษ ถ้ายิงถูกใครแล้วแผลจะรักษาไม่หาย ดังเช่นในกรณีของ เซ็นทอร์ไครอน ๑๔. Kraken (ครากเค็น) ต� ำนานเล่าว่าครากเค็นเป็นอสุรกายที่อาศัยอยู่ในแถบทะเลเหนือ แถวประเทศนอร์เวย์ มีรูปร่างคล้ายปลาหมึกยักษ์ขนาดมหึมา มักจะโผล่ขึ้นมาจากทะเลในวันฤดูร้อน เมื่อทะเลสงบ เนื่องจากขนาดอันมโหฬารของมัน มนุษย์จึงไม่สามารถมองเห็นมันได้ทั้งตัว ว่ากันว่าหลัง จากครากเค็นที่โตเต็มที่จะมีเส้นรอบวงถึง ๑ ไมล์ครึ่ง เมื่อมองดูทีแรกจะดูตะปุ่มตะป�่ ำเหมือนเกาะลอย น�้ ำเล็ก ๆ ล้อมรอบด้วยสาหร่ายทะเล สักพักหนวดขนาดยักษ์จะโผล่ขึ้นมา ซึ่งครากเค็นใช้หนวดเหล่านี้ ผลักดันตัวเองให้เคลื่อนที่และหาอาหาร หลังจากนั้นมันจะจมลงไปในมหาสมุทร ท� ำให้น�้ ำทะเลรอบ ๆ ปั่นป่วนกลายเป็นวังน�้ ำวนดูดทุกสิ่งทุกอย่างลงไป ครากเค็นมีจังหวะชีวิตที่ตายตัว บางเดือนมันจะกินอาหาร อย่างเดียว บางเดือนก็ขับถ่ายอย่างเดียว ในช่วงหลังนี้พื้นผิวทะเลจะขุ่นและส่งกลิ่นฉุน ซึ่งกลิ่นฉุนและ ความขุ่นนี้ดึงดูดให้ฝูงปลามาหาอาหาร ครากเค็นจะใช้หนวดของมันลากปลาเข้ามาสะสมไว้เป็นเสบียง ในการกินอาหารครั้งต่อไป เชื่อกันว่าแมงกะพรุนคือไข่ของครากเค็น ในศตวรรษที่ ๑๖ มีแผนที่แสดง ภาพเรือจอดทอดสมออยู่ใกล้ ๆ ครากเค็น โดยมีลูกเรือ ๒ คนขึ้นไปหุงหาอาหารอยู่บนตัวครากเค็น