สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

วั นเดื อนปีที่ สุนทรภู่แต่งงานค�ำกลอนห้าเรื่ อง ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๘๔-๒๓๘๕ 108 The Journal of the Royal Institute of Thailand Vol. 39 No. 2 April-June 2014 พวกผู้หญิงพี่พิงเอนดูเดือนแจ่ม จับผิวแก้มแลล้วนเป็นนวลขาว” “พลางตีทัพขับเพลงบรรเลงพิญ จนพลบสิ้นสุริยงลับคงคา ดาวสว่างลางคืนทั้งคลื่นเงียบ ดูเรือเรียบแล่นรายทั้งซ้ายขวา” ในตอนเริ่มออกเดินทาง คืน “ เดือนแจ่ม ” “ดาวสว่าง” เข้าใจว่าออกจากวัดสระเกศ บริเวณ คลองมหานาค เพราะเป็นที่เก็บศพมารดาของตนเอง สุนทรภู่ได้ถือโอกาสเริ่มแต่ง “โคลงนิราศสุพรรณ” ที่สอดคล้องกันไว้ว่า “เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า” จนเชื่อได้ว่าแต่งพร้อมกัน ว่า “๑ เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว จรูญจรัดรัศมีพราว พร่างพร้อย ยามดึกนึกหนาวหนาว เขนยแนบ แอบเอย เยนฉ�่ ำน�้ ำค้างย้อย เยือกฟ้าพาหนาวฯ” “๕ เลี้ยวลัดวัดษเกษก้ม คมลา กุฎศพนบมานดา เกิดเกล้า เดชะพระกุศลภา พ้นโลก โอกฆเอย เสวยศุภทุกค�่ ำเช้า ช่องชั้นสวรรยางคฯ” โดยบริบทหลักฐานต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว และที่จะกล่าวต่อไป พอจะอนุมานได้ว่า ในการที่ สุนทรภู่ถูกก� ำหนดให้เดินทางไปเพชรบุรีในเดือน ๑๒ หลังออกพรรษา ปีฉลู พ.ศ. ๒๓๘๔ แล้วได้แต่ง “กาพย์พระไชยสุริยา” มาตอนนี้เป็นการเดินทางโดยมีผู้ก� ำหนดอีกเช่นกันให้ไปสุพรรณบุรี แล้วได้แต่ง “โคลงนิราศสุพรรณ” ค� ำโคลงต่อไปนี้ ท� ำให้เชื่อได้ว่างานทั้ง ๒ เรื่องนี้ สุนทรภู่แต่งขึ้น โดยพระราชประสงค์ ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะทรงรู้จิตรู้ใจ ตลอดจนความสามารถ และวิธีสยบปัญหา ที่เกิดขึ้น “๒๗๔ เล่าความตามเรื่องแหร้ แต่หลัง ใช่คิดบิดเบือนบัง บอกแจ้ง ขัดเคราะเพราะยุกยัง อยู่อย่า มาเอย กายสิทพิศกล้าแกล้ง กลบกลุ้มคลุ้มควันฯ “๒๗๕ รู้ศึกนึกเรื่องเจ้า เล่าความ ทราบหมดจดหมายตาม แต่งไว้ โออกตกวัยยาม ยุกยาก มากเอย บุญบวดกรวดกระสินให้ แห่งเจ้าเล่าความฯ”

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=