สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

ทศพร วงศ์รัตน์ 175 วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๐ ฉบับที่ ๑ ม.ค.-มี.ค. ๒๕๕๘ ใครจะคิด “ว่ายแหวกกอบัวอยู่ไหวไหว” ก็ยังไม่ยอม แต่เป็นไปได้ที่แต่งแล้วเรื่องยังอยู่กับตัวที่เพชรบุรี เมื่อมีผู้แจ้งให้รู้ว่ามารดาได้เสียชีวิต และตัวเองต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ มาจัดการศพมารดา จึงยก เอามาแก้ไขเป็นดังกล่าว (เหมือนครั้งย้อนแก้ไข “บทละครเรื่องอิเหนา” ของกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์) มิฉะนั้น มารดาก็ต้องชราภาพมาก หรือเจ็บป่วยจนมาเสียชีวิตจริงในเวลาต่อมา และเมื่อสึกจากพระแล้ว เดินทางมาแต่ง “นิราศพระประธม” ในเดือน ๑๒ ปีขาล พ.ศ. ๒๓๘๕ จึงแต่งซ�้ ำล้อไปในท� ำนองเดียวกัน อีก ต่างจากเมื่อแต่ง “ลักษณวงศ์” ใน พ.ศ. ๒๓๖๓-๒๓๖๖ ที่มีอยู่ว่า “น�้ ำค้างร่วงประทุมมาลย์ก็บานชื่น รื่นรื่นลมเชยระเหยหอม” (ดู ค� ำกลอนหมายเลข ๖) หากผู้อ่านจ� ำได้ ที่น่าเอามาคิดเป็นอย่างมาก และชวนให้ยิ่งสรุปได้ว่า มารดาของสุนทรภู่มีชื่อ ว่าบัว นั่นคือ ค� ำเกี่ยวกับในที่นี้ ซึ่งก็อยู่ในนิทานเรื่องเดียวกัน แต่ย้อนไปตั้งแต่ตอนที่ ๑ เมื่อสุนทรภู่หลบ หรือแฝงมารดาไว้ก่อน ในชื่อว่านาง “ปทุมเกสร” และต่อมาในตอนที่ ๒๓ ในชื่อว่า “นางปทุม” จนถึงตอนนี้ สุนทรภู่มาต่อได้อย่างสมเหตุสมผล กล่าวคือ ให้ “เกสรร่วงโรยรายขจายจร” นี่จึงเป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่ง ที่แสดงว่า ค� ำกลอนทุกค� ำของสุนทรภู่ล้วนมีนัย หรือที่มาที่ไปทั้งสิ้น มิใช่ฟุ้งเฟ้อด้วยจินตนาการอย่าง ที่พูดกัน แม้ในหมู่นักวิชาการ (ดู ค� ำอธิบายในหมายเลข ๑๑, ๑๒, ๑๓, ๒๓, ๒๗, ๒๘ เรื่อง “ลักษณวงศ์” และ “นิราศ พระประธม”ที่กล่าวมาแล้ว) ๒๓. “จะจากวังลังกาให้อาวรณ์ สะท้อนถอนหฤทัยอาลัยลาน” “ฝ่ายทุกองค์พงศ์กษัตริย์ต่างจัดทัพ ลงเรือกลับข้ามคุ้งไปกรุงศรี ต่างถึงเมืองเรืองส� ำราญผ่านบุรี พอเดือนยี่ยามหนาวคราวเหมันต์” (จาก “พระอภัยมณีค� ำกลอน” ตอนที่ ๔๖ พระอภัยมณีกลับเมือง หน้า ๙๒๒, ๙๒๖) ผู้เขียนยกค� ำกลอนที่ไม่เกี่ยวกับชื่อมารดาตอนนี้มา แต่เกี่ยวกับการต้องเดินทางหลบออก ไปต่างเมืองของสุนทรภู่ พร้อมกับที่ยังมีกล่าวสอดคล้องกันอยู่ใน “ร� ำพันพิลาป” ที่จะเสนอต่อไปนี้ ก็เพื่อ ใช้เป็นหลักฐานโยงให้เรื่องได้ต่อเนื่องกันว่า เป็นการเดินทางของสุนทรภู่กลับกรุงเทพฯ จากเพชรบุรี หรือ ลังกาตามนิทาน เพราะการเสียชีวิตของมารดา ที่ยังมีตรงกับใน “เดือนยี่” ปีฉลู พ.ศ. ๒๓๘๔ ตามค� ำ บรรยายใน “โคลงนิราศสุพรรณ” โคลงที่ ๕ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ค� ำกลอนใน “ร� ำพันพิลาป” ที่หมาย ถึงการหลบต่อไปในสุพรรณบุรีทางเรือ (ในเดือน ๓ ปีเดียวกันตามนิทาน ตอนที่ ๔๗ หน้า ๙๓๕) นั่นคือ “ถึงเดือนยี่มีเทศน์สมเพชพักตร์ เหมือนลงรักรู้ว่าบุญสิ้นสูญหาย สู้ซ่อนหน้าฝ่าฝืนสะอื้นอาย จนถึงปลายปีฉลูมีธุระ

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=