สำนักงานราชบัณฑิตยสภา
มารดาของสุนทรภู่ชื่อบัว 174 The Journal of the Royal Society of Thailand Volume 40 Number 1 January-March 2015 ตามข้อเท็จจริงสุนทรภู่แต่งตอนที่ ๔๕ นี้ ให้เป็นเค้าของตัวเองขณะเดินทางที่มีผู้ก� ำหนด โดยทางบกจากกรุงเทพฯ (ตอนนั้นมารดายังปรกติ) ให้ไปหลบอยู่ที่เพชรบุรี ตั้งแต่เดือน ๑๒ ปีฉลู พ.ศ. ๒๓๘๔ หลังเกิดปัญหาเป็นเรื่องกับกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ในเดือน ๘ ของปีเดียวกัน สุนทรภู่ได้แต่ง “กาพย์พระไชยสุริยา”และเริ่มนิทานตอนนี้เป็นตอนแรกของภาค ๒ หลังจากหยุดแต่งมาตั้งแต่ปีชวด พ.ศ. ๒๓๘๓ โดยสร้างเรื่องให้นางเสาวคนธ์ขุดโคตรเพชร ในภาพของกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ เพชรนั้น มีขนาด “ดอกบัว” ส่วนต่อมานั้นเป็นฉากสระบัวและปลา ขณะเดินทางผ่านสิ่งแวดล้อมดังกล่าวของ พระประธมที่น่าสนใจคือ เมื่อพูดถึง “บัวหลวง” แล้วกล่าวว่า “เกสรร่วงโรยรายขจายจร” นั้นน่าจะหมายถึง มารดาที่ชื่อบัว ท� ำงานหลวงในวัง เหมือนได้ถึงแก่กรรมแล้ว ซึ่งสุนทรภู่ไม่เคยแต่งในลักษณะนี้ในที่ใด มาก่อน เป็นการแต่งเหมือนที่กล่าวต่อมาอีก ๑ ปีพอดีใน “นิราศพระประธม” ซึ่งมารดาได้เสียชีวิตจริง มาแล้ว ๙-๑๐ เดือน เป็นค� ำกลอนเกี่ยวกับ“บัวหลวง” ในสระเดียวกัน ด้วยค� ำคล้ายกันว่า “บ้างร่วงโรย โปรยปรายกระจายจร” ผู้เขียนจึงอยากจะเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนชอบระแวง หรือจินตนาการสูงอย่าง สุนทรภู่ จะแต่งค� ำกลอนให้เป็นลางร้ายถึงมารดา จนถึงแก่กรรมในอีกไม่เกิน ๒ เดือนต่อมา เพราะเพียง รูปที่ ๑๐ “ถึงสระศรีสี่เหลี่ยมต่างเยี่ยมหยุด ชมปลาผุดเห็นตัวทั้งบัวหลวง บ้างแตกขาวง่าวงอกเป็นดอกดวง เกษรร่วงโรยรายขจายจร” (จาก“พระอภัยมณีค� ำกลอน”ตอนที่ ๔๕ หน้า ๙๐๒) (ภาพจา กhttp://wallpaper.thaiware . com/album/81231) รูปที่ ๑๑ “ทั้งสระมีสี่มุมปทุมชาติ ระดะดาษดอกดวงบัวหลวงสลอน บ้างร่วงโรยโปรยปรายกระจายจร หอมเกสรเสาวคนธ์ที่หล่นลอย” (จาก “นิราศพระประธม” พ.ศ. ๒๓๘๕) (ภาพจาก “รวมรูปภาพดอกบัว” Analaya)
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=