สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

มารดาของสุนทรภู่ชื่อบัว 160 The Journal of the Royal Society of Thailand Volume 40 Number 1 January-March 2015 หนูพัดแม้จะเคยบวชเณรมาแล้ว พร้อมกับสุนทรภู่ที่บวชเป็นพระ ในราวกลางปีวอก พ.ศ. ๒๓๖๗ แต่ตอนสุนทรภู่ออกเดินทางไปต่างเมือง โดยทิ้งนางนิ่มพร้อมหนูตาบ ที่อายุได้เพียง ๒ ขวบ ไว้ที่ เพชรบุรี ตั้งแต่ต้นปีจอ พ.ศ. ๒๓๖๙ หนูพัดก็คงจะได้สึกออกมาติดตามสุนทรภู่ไปธุดงค์ และมารับพระ อุปการะอีกครั้งจาก สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ตลอดมา จนพระองค์สวรรคตในวันอังคารที่ ๑ พฤษภาคม ปีมะโรง พ.ศ. ๒๓๗๕ สุนทรภู่ซึ่งก็เป็นพระ เหมือนจะ แนะน� ำให้ลูกบวชครั้งนี้ถวายเป็นพระราชกุศล และเมื่อบวชแล้วหลังพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันเสาร์ ที่ ๖ เมษายน ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๓๗๖ จึงรอเวลาถึงหน้าน�้ ำ แล้วถือโอกาสเดินทางกันในราวเดือนพฤศจิกายน ของปีเดียวกัน มีการใช้สิ่งแวดล้อมเป็นฉากส� ำหรับการแต่งนิราศเรื่องนี้ในนามของเณรหนูพัด ให้สมกับที่ เณรหนูพัดเป็นเจ้าของการบวชถวายพระองค์ ด้วยอัจฉริยะการแต่ง จึงท� ำให้คนทั่วไปเข้าใจว่า เป็นงาน ของเณรหนูพัด แต่ลักษณะการร�่ ำไรด้วยค� ำสัมผัส รวมทั้งการพูดถึงผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวกับเณรหนูพัด และในที่ นี้ยังเป็นการใช้ฉากที่เกี่ยวกับบัวอย่างงานอื่น ๆ จึงเป็นวิสัย และผลงานการแต่งของสุนทรภู่อย่างแน่นอน เพราะเณรหนูพัดคงจะไม่มีแผน ไม่มีความรู้ ความเข้าใจที่จะนึกถึงในเรื่องเช่นนี้ หรือวิธีการที่จะแต่งด้วย ประวัติเหล่านี้ อนึ่ง นิราศเรื่องนี้จึงเป็นการแต่งในปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๓๗๖ มิใช่ ๒๓๗๕ อย่างที่เข้าใจกัน รวม ทั้งตัวผู้เขียนเอง ที่เคยคล้อยตามผู้อื่นมาก่อน ๙. “เห็นเงาไม้ไหวหวั่นให้ฟั่นเฟือน จนเดือนเคลื่อนคล้อยฟ้าให้อาวรณ์ เห็นสระศรีที่เคยมาประพาส ระดะดาษดอกดวงบัวหลวงสลอน ลมร� ำเพยเชยชายกระจายจร หอมเกสรเสาวคนธ์ที่หล่นโรยฯ” (จาก “นิราศอิเหนา” พ.ศ. ๒๓๗๗) เช่นเดียวกับผลงานเรื่องอื่น ๆ ดูเหมือนสุนทรภู่จะใช้วิธีแสดงความระลึกถึงมารดาของตน ด้วย การพาดพิงถึงดอกบัวตามล� ำน�้ ำที่สะกิดใจ ไว้เป็นหลักฐานในความคิดถึงมารดาของตน ขณะเดินทาง ผ่านเสมอ แทนที่จะแต่งเป็นเฉพาะถึงพระคุณของมารดา ในนิราศเรื่องนี้ สุนทรภู่แต่งเป็นเรื่องเล่าถึง การจินตนาการณ์ท่องไปหลายที่หลายทาง เพื่อตามหานางงิ้ว สาวคนรักที่หายหน้าหายตาไป โดยทางเรือ ในฉากของเรื่องอิเหนา ส่วนการผ่านธรรมชาติหมู่ดอกบัวหลวง เข้าใจว่าไปจนถึงถ�้ ำเขาหลวงที่เพชรบุรี ตามประวัติของตัวเองที่กับเธอเคยพากันมาเที่ยวถึงที่นี่ เป็นค� ำกลอน ว่า “พลางรีบทัพขับรถก� ำหนดแสวง ทุกหล้าแหล่งล� ำเนาภูเขาหลวง” งานนี้จัดเป็นงานที่แต่งถวายพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ ซึ่งสิ้นพระชนม์ ต่อมา ด้วยประชวรเป็นไข้ป่วงในวันอาทิตย์ที่ ๑๗ พฤษภาคม ปีมะแม พ.ศ. ๒๓๗๘ และเป็นตัวอย่างของ การร�่ ำไร ในฉากของการจินตนาการ เป็นการหลบไว้ เพราะขณะนั้นยังเป็นพระ ที่เริ่มมาก่อนใน “นิราศ ภูเขาทอง” ที่แต่งในฉากของการเดินทางจริง จนผูกใจผู้อ่านได้เป็นที่สุด น่าสังเกตว่า ค� ำกลอน “ระดะดาษ ดอกดวงบัวหลวงสลอน” สุนทรภู่ยังน� ำไปใช้ต่อมาใน “นิราศพระประธม” และนิทานพระอภัยมณี ตอนที่ ๖๔ หน้า ๑๒๗๘ (ดู ค� ำกลอนหมายเลข ๑๓, ๓๐)

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=