สำนักงานราชบัณฑิตยสภา
69 สั นติ เล็กสุขุม วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๐ ฉบับที่ ๒ เม.ย.-มิ.ย. ๒๕๕๘ ประติมากรรม พระพุทธรูปประธานภายในอุโบสถ แวดล้อมด้วยพระพุทธรูปขนาดย่อมกว่า ทั้งหมดย่อมหมายถึงพระพุทธองค์ทั้งสิ้น การประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์รวมไว้บนฐานชุกชี คงเป็นความนิยมในสมัยหลังแล้ว (ภาพที่ ๕) พระพุทธรูปประธาน ยังมีเค้าพระพักตร์แบบสมัย กรุงศรีอยุธยาตอนปลาย พระองค์ประทับนั่งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์แสดงปางมารวิชัย คือข้ออธิบายว่า การสร้างพระพุทธรูป นอกจากเป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธองค์แล้ว ยังสื่อเรื่องพุทธประวัติ คือ พระอิริยาบถประทับนั่ง พระหัตถ์ซ้ายวางหงายที่พระเพลา พระหัตถ์ขวาวางพาดที่พระชงฆ์ นิยม เรียกกันว่า พระพุทธรูป “ปางมารวิชัย” หมายถึงพระโพธิสัตว์ทรงชนะมารและตรัสรู้เป็นพระสัมมา สัมพุทธเจ้าสัมพันธ์กับภาพจิตรกรรมเป็นแถวของเหล่าเทวดาที่ประนมกรถวายนมัสการ ที่เรียกว่า “เทพชุมนุม” ซึ่งได้กล่าวไว้ในส่วนของจิตรกรรมแล้ว สรุป ประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรมไทยโบราณ มีหน้าที่และมีความหมาย สัมพันธ์กัน ทั้งสามอยู่ในฐานะข้อมูลหลักในสาขาวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ ดังตัวอย่างอุโบสถของ วัดใหญ่อินทาราม ชลบุรี กล่าวคือ อุโบสถ คือ อาคารฐานันดร หมายถึง “ปราสาท” ผนังด้านใน สองผนังข้างมีภาพนิทานทศชาติ อันเป็นสิบพระชาติในอดีตของพระพุทธองค์ ผนังตรงข้ามพระพุทธรูป ประธาน คือ ภาพเต็มผนัง ตอนส� ำคัญที่สุดของนิทานพุทธประวัติ คือ ตอนมารผจญ-ชนะมาร อุโบสถ จึงมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ว่า เป็นที่สถิตของ “พระพุทธองค์ ณ ศูนย์กลางแห่งจักรวาล”
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=