สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

ชลดา เรื องรั กษ์ลิ ขิ ต 47 วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๑ มกราคม-มีนาคม ๒๕๕๙ รามายณะ บัดนั้นมาตลิก็ทูลเตือนพระรามราฆวะ ข้าแต่พระวีระเหตุใดพระองค์ยังคงจัดการกับเขาราวกับ ไม่ทรงรู้เลยเล่า ข้าแต่พระประภู ทรงใช้เทพอาวุธแห่งพระพรหมปิตามหะสังหารเขาเถิด วันนี้คือ วันกาลวินาศตามที่ฟ้าลิขิตไว้ส� ำหรับเขาแล้ว (ยุทธกัณฑ์ : ๗๒๙) บทละครเรื่องรามเกียรติ์ เหตุไฉนพระองค์ทรงฤทธิ์ มาหลงพิศดูรูปยักษา ผิดกับที่ทรงพระจินดา หมายมาจะล้างไพรี อันค� ำบูราณกล่าวไว้ อย่าให้หลงกลทั้งสี่ คือรูปรสวาจาพาที ดุริยางค์ดนตรีนี้ห้ามนัก พระองค์ก็ทรงปรีชาชาญ อันโอฬารเลิศล�้ ำไตรจักร หรือมางงหลงด้วยรูปยักษ์ แต่ตั้งพักตร์พิศเพ่งไม่วางตา อันตัวข้าบาทนี้เห็นผิด จะเหมือนครั้งอินทรชิตยักษา พากันหลงรูปมารยา จนเสียกลอสุราสาธารณ์ พระองค์ทรงแผลงพรหมาสตร์ ไปพิฆาตให้ม้วยสังหาร ก็จะเสร็จความศึกที่ปราบมาร ผ่านฟ้าจงได้ปรานี (เล่ม ๓ : ๓๙๘-๓๙๙) ต่อมานางมณโฑ/มนโททรีในทั้ง ๒ ส� ำนวนมาดูศพทศกัณฐ์/ราวณะ และคร�่ ำครวญกับศพ ความแตกต่างด้านตัวละคร ๑. ผู้เตือนพระรามให้สังหารทศกัณฐ์/ราวณะ ฉบับไทยหนุมานเป็นผู้เตือน แต่ใน รามายณะ พระมาตลีเป็นผู้เตือน ๒. ค� ำคร�่ ำครวญของนางมณโฑ/มนโททรี ฉบับไทยนางมณโฑและนางอัคคีคร�่ ำครวญกับศพ ทศกัณฐ์ นางมณโฑครวญตัดพ้อทศกัณฐ์ที่ทิ้งนางโดยครวญว่าทศกัณฐ์มีฤทธิ์เดชมากจึงไม่น่าแพ้ศัตรู ทั้งครวญว่าได้เตือนทศกัณฐ์หลายครั้งแต่ก็ไม่เคยฟังค� ำนาง จึงต้องสวรรคตเช่นนี้ (เล่ม ๓ : ๔๐๖) ใน รามายณะ นางมนโททรีตัดพ้อราวณะว่าไม่ควรลักนางสีดา ทั้งยังเปรียบเทียบนางสีดากับตนว่างาม เสมอกันแต่เพราะราวณะลุ่มหลงนางสีดาจึงไม่เห็นความจริงนี้ ดังปรากฏในความว่า “พระองค์ผู้สิ้นคิด

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=