สำนักงานราชบัณฑิตยสภา
55 วนิ ดา ข� ำเขี ยว วารสารราชบัณฑิตยสภา ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒ เม.ย.-มิ.ย. ๒๕๕๙ ใหม่เพื่อบรรยายปรัชญาที่มหาวิทยาลัยเบอร์ลิน แต่ไม่ประสบผลส� ำเร็จ เขารู้สึกผิดหวังต่ออาชีพอาจารย์ ในมหาวิทยาลัยจึงหันเหชีวิตไปเป็นนักแปลโดยแปลผลงานต่าง ๆ รวมทั้งแปลผลงานปรัชญาของคานท์ เป็นภาษาอังกฤษ ส� ำนักพิมพ์ทั้งหลายต่างปฏิเสธงานของเขาทั้ง ๆ ที่ความสามารถทางภาษาอังกฤษของ เขานั้นดีมาก ขณะนั้นเขามีอายุ ๔๓ ปีแล้วและได้เกิดความรักกับหญิงสาวอายุ ๑๗ ปี แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะถูกหญิงสาวปฏิเสธที่จะคบหาสมาคมด้วย เขารู้สึกขมขื่นกับชีวิตที่มีแต่ความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า จนเกือบเป็นโรคประสาท เมื่อเขาตั้งสติได้ก็ตัดสินใจออกจากกรุงเบอร์ลินอีกครั้งใน ค.ศ. ๑๘๓๓ เพื่อค้นหา ชีวิตอันสงบเงียบที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ตอัมไมน์ (Frankfurt am - Main) ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่เป็นศูนย์กลาง ธนาคารแห่งภาคพื้นยุโรป เขาได้พักอยู่ในอะพาร์ตเมนต์กับสุนัขพันธุ์พุดเดิล (puddle) ที่เลี้ยงติดต่อกันมา หลายตัว เพราะเขารู้สึกว่าสุนัขพันธุ์นี้มีความอ่อนโยนและอ่อนน้อมถ่อมตนกว่ามนุษย์ โชเพนเฮาเออร์ ได้กล่าวว่า “การที่ได้เห็นสัตว์ใด ๆ ก็ตามท� ำให้ข้าพเจ้ามีความสุขและท� ำให้หัวใจเบิกบานทันที” ๓ จากค� ำพูดประโยคนี้ท� ำให้เห็นว่าโชเพนเฮาเออร์ที่ดูเหมือนว่าเป็นคนก้าวร้าวหากแต่ภายใน จิตใจของเขาก็เป็นคนรักสัตว์ โดยเฉพาะสุนัขนั้นเมื่อเวลาเขากล่าวถึงสุนัขเขาจะใช้สรรพนามแทนสุนัขว่า “ท่าน” อีกทั้งยังให้ความใส่ใจอย่างจริงจังในความเป็นอยู่ของสุนัข ๔ โชเพนเฮาเออร์ด� ำเนินชีวิตประจ� ำวันซ�้ ำ ๆ กันทุกวันอย่างไม่เบื่อหน่าย แต่เนื่องจากเขาเป็น ผู้มีความสามารถในการบริหารเวลาให้สมดุลกันระหว่างเวลาพักผ่อนกับเวลาท� ำงาน เขาจึงสามารถด� ำเนิน ชีวิตไปอย่างสบาย ไม่เร่งร้อน เขาชอบตื่นนอนแต่เช้าตรู่เวลา ๗ นาฬิกา จากนั้นไปล้างหน้าอาบน�้ ำ แต่ยัง ไม่รับประทานอาหารเช้านอกจากดื่มกาแฟอย่างเข้มข้นเพียง ๑ ถ้วย แล้วนั่งเขียนหนังสืออีกจนกระทั่งถึง เวลาเที่ยงจึงหยุดพักเล็กน้อยด้วยการเป่าฟลูต (flute) แล้วออกไปรับประทานอาหารกลางวันนอกบ้านที่ ร้านอิงลิชฮอฟ (English Hof) พอกลับบ้านก็อ่านหนังสือต่อไปจนถึง ๔ โมงเย็นแล้วออกไปเดินเล่นแถวริม แม่น�้ ำไมน์ (Main) กับสุนัขเป็นเวลานานถึง ๒ ชั่วโมง โดยไม่สนใจกับสภาวะอากาศ ช่วงเย็นเขาชอบไป ห้องสมุดของสโมสรเพื่ออ่านหนังสือพิมพ์ The Times พออ่านเสร็จแล้วก็ไปโรงละครหรือไม่ก็ไปฟัง คอนเสิร์ต จากนั้นจึงรับประทานอาหารเย็นที่โรงแรมหรืออาจจะไปภัตตาคารแล้วกลับบ้านนอน ต่อมาใน ค.ศ. ๑๘๓๙ โชเพนเฮาเออร์ได้รับรางวัลที่ ๑ จากผลงานที่มีชื่อว่า Über die Freiheit des Menschlichen Willens (On the Freedom of Human will) โดยสมาคม the Royal Norwegian Society เป็นผู้มอบให้ ๓ พจมาน บุญไกรศรี. (๒๕๕๖). ปรัชญาประโลมใจ . หน้า ๒๓๑. ๔ แหล่งเดิม . หน้า ๒๓๑.
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=