สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

บทบาทของสตรี อเมริ กั นเชื้ อสายแอฟริ กาในขบวนการเลิ กทาส 316 The Journal of the Royal Society of Thailand Vol. 41 No. 2 April-June 2016 ขณะเดียวกันก็เรียนรู้เกี่ยวกับการท� ำงานของขบวนการเลิกทาส ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนความคิดกับสมาชิก ของขบวนการเลิกทาสคนอื่นด้วย ทับแมนท� ำงานในขบวนการรถไฟใต้ดินตั้งแต่ ค.ศ. ๑๘๕๐ เริ่มจากการช่วยเหลือหลานสาวและ ครอบครัวของเธอให้หลบหนีจากเมืองบอลทิมอร์ (Baltimore) มลรัฐแมริแลนด์ไปยังเมืองฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia) ในมลรัฐเพนซิลเวเนีย หลังจากนั้นทับแมนได้แอบย้อนกลับไปที่ดอร์เชสเตอร์เคาน์ตีอีกครั้ง หนึ่งเพื่อช่วยพาสามีของเธอหนี แต่พบว่าสามีของเธอแต่งงานใหม่แล้ว และไม่ต้องการย้ายไปไหน เธอจึง ช่วยเหลือทาสอีก ๔-๕ คนที่ก� ำลังหลบหนีแทนเพราะเชื่อว่าเป็นความประสงค์ของพระเจ้า ทับแมนมุ่งมั่น ช่วยเหลือทาสที่หลบหนีด้วยขบวนการรถไฟใต้ดินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง แต่เนื่องจากรัฐสภาสหรัฐอเมริกา ได้ผ่านกฎหมายเกี่ยวกับทาสที่หลบหนีฉบับใหม่ คือ Fugitive Slave Act of 1850 ๒๑ ซึ่งให้อ� ำนาจจับกุม ทาสที่หลบหนีอยู่ในเขตมลรัฐเสรีได้ และให้ลงโทษปรับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายด้วย ท� ำให้ การท� ำงานของขบวนการรถไฟใต้ดินยากล� ำบากมากขึ้น เพราะทาสที่หลบหนีไม่สามารถใช้ชีวิตปรกติ ในมลรัฐเสรีทางภาคเหนือได้อีกต่อไป ทับแมนจึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางหลบหนีไปยังแคนาดาแทน ต้น ค.ศ. ๑๘๕๕ ทับแมนช่วยพาพี่ชายน้องชายของเธอรวมทั้งครอบครัวของพวกเขาไปตั้งรกราก ที่เมืองเซนต์แคเทอรีน (St. Catherine) ในดินแดนแคนาดาซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนสหรัฐอเมริกาเพียง ๑๘ กิโลเมตร ทั้งเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยจากการถูกจับตัวส่งกลับไปเป็นทาสดังเดิม และยังมีโอกาสตั้งต้น ชีวิตใหม่ได้ง่ายเพราะสามารถหางานท� ำเลี้ยงตนเองได้ด้วย หลังจากนั้นทับแมนได้พาสมาชิกมาสมทบที่ เมืองนี้อีกจ� ำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นครอบครัวของญาติและเพื่อนของเธอ รวมทั้งบิดามารดาของเธอเอง โดยรวม ทับแมนช่วยน� ำผู้หลบหนีจากมลรัฐแมริแลนด์ไปยังแคนาดาประมาณ ๑๓ คณะ ๒๒ เฉลี่ยคณะละ ประมาณ ๖-๗ คน อย่างไรก็ตาม การพาทาสหลบหนีไปยังแคนาดามีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะค่าเดินทาง ของบรรดาผู้หลบหนี ทับแมนจึงต้องท� ำงานหนักเพื่อเก็บเงินไว้ช่วยเหลือผู้หลบหนีแต่ละชุด ขณะเดียวกัน ทับแมนก็ได้รับเงินบริจาคสมทบเมื่อได้รับเชิญไปแสดงปาฐกถาในสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งมีผู้ฟังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากทับแมนมีบุคลิกตรงไปตรงมา มีลักษณะจริงใจ และเล่าเรื่องจากประสบการณ์ตรงของเธอเอง ที่น่าตื่นเต้นและชวนติดตาม ทับแมนได้รับสมญาว่า “Moses of Her People” ซึ่งเป็นการน� ำวีรกรรมของเธอไปเปรียบกับ โมเสส ผู้น� ำชนชาวยิวหนีออกจากอียิปต์ไปสู่ดินแดนของพระเจ้าในปาเลสไตน์ เนื่องจากเธอมีความมุ่งมั่น ๒๑ ดูรายละเอียดของกฎหมายฉบับนี้ใน http://avalon.law.yale.edu/19th_century/fugitive.asp สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙. ๒๒ ดู “Harriet Tubman and the Underground Railroad,” http://www.harriettubmanbiography.com/TubmansUGRR.html สืบค้นเมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙.

RkJQdWJsaXNoZXIy NTk0NjM=